
"ไข้รากสาดน้อย" กับ "ไข้รากสาดใหญ่" ต่างกันอย่างไร? แบบไหนอันตรายกว่า?
"โรคไข้รากสาด" เป็นชื่อที่คนไทยคุ้นหูกันมานาน ตั้งแต่สมัยก่อนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าเท่าทุกวันนี้
แต่รู้หรือไม่ว่า “ไข้รากสาดน้อย” กับ “ไข้รากสาดใหญ่” นั้นไม่ใช่โรคเดียวกัน แม้จะมีชื่อคล้ายกันจนทำให้หลายคนสับสนก็ตาม ทั้งสองโรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเหมือนกันแต่มีความรุนแรงและกลไกการแพร่เชื้อที่ต่างกันอย่างชัดเจน
ในอดีต โรคไข้รากสาดถือเป็นโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะในช่วงสงครามหรือพื้นที่ที่มีสุขอนามัยไม่ดี
ปัจจุบันโรคเหล่านี้พบได้น้อยลงในประเทศไทย แต่ยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือในกลุ่มประชากรที่ขาดการดูแลด้านสุขาภิบาล
ดังนั้นการรู้จักความแตกต่างของไข้รากสาดน้อยและไข้รากสาดใหญ่ จะช่วยให้เราระมัดระวังและสังเกตอาการได้อย่างถูกต้อง
ไข้รากสาดน้อยคืออะไร?
ไข้รากสาดน้อย (Typhoid fever) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella typhi ซึ่งมักเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรืออุจจาระของผู้ป่วย อาการเริ่มต้นจะคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น มีไข้ต่ำ ปวดหัว อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย และอาจมีอาการท้องเสียหรือท้องผูก หลังจากนั้นไข้จะค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ และมักจะเป็นไข้ต่อเนื่องนานหลายวัน
ในบางรายอาจพบผื่นแดงเล็กๆตามลำตัว มีอาการแน่นท้อง หรือเบื่ออาหาร หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ลำไส้ทะลุ หรือเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ไข้รากสาดใหญ่คืออะไร?
ไข้รากสาดใหญ่ (Typhus fever) มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม Rickettsia ซึ่งติดต่อผ่านตัวเหา หมัด หรือเห็บที่เป็นพาหะ เมื่อแมลงเหล่านี้กัดคน เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัวรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ มีผื่นขึ้นทั่วตัว และบางรายอาจมีอาการทางระบบประสาท เช่น สับสนหรือเพ้อ
โรคนี้เคยระบาดหนักในอดีต โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความแออัด เช่น ค่ายทหารหรือเรือนจำ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีด้วยยาปฏิชีวนะ อาจเกิดภาวะอวัยวะล้มเหลวและเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ไข้รากสาดน้อย vs ไข้รากสาดใหญ่ ต่างกันอย่างไร?
- สาเหตุของโรค: ไข้รากสาดน้อยเกิดจาก Salmonella typhi ส่วนไข้รากสาดใหญ่เกิดจากเชื้อในกลุ่ม Rickettsia
- การติดต่อ: ไข้รากสาดน้อยมาจากอาหารหรือน้ำปนเปื้อน ส่วนไข้รากสาดใหญ่มาจากเหา เห็บ หรือหมัด
- ลักษณะอาการ: ไข้รากสาดน้อยมีไข้ค่อยๆสูงขึ้น ส่วนไข้รากสาดใหญ่จะมีไข้สูงเฉียบพลันและผื่นขึ้นเร็ว
- ความรุนแรง: ไข้รากสาดใหญ่ถือว่ารุนแรงกว่า และมีโอกาสเสียชีวิตสูงหากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา
แบบไหนอันตรายกว่ากัน?
โดยทั่วไป “ไข้รากสาดใหญ่” มักมีอาการรุนแรงกว่า “ไข้รากสาดน้อย” เพราะเป็นไข้เฉียบพลันที่ส่งผลต่อระบบประสาทและหลอดเลือด หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่วัน
ส่วนไข้รากสาดน้อยแม้จะไม่รุนแรงเท่า แต่หากปล่อยเรื้อรังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้เช่นกัน
วิธีป้องกันโรคไข้รากสาด
- รักษาความสะอาดของอาหารและน้ำดื่มเสมอ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือมีแมลงพาหะชุกชุม
- สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายเมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเห็บหรือหมัด
- หมั่นล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- หากมีไข้สูงและผื่นขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว
บทสรุป
แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่ “ไข้รากสาดน้อย” และ “ไข้รากสาดใหญ่” เป็นโรคที่แตกต่างกันทั้งในด้านสาเหตุ การติดต่อ และความรุนแรง โดยไข้รากสาดใหญ่ถือว่ามีอันตรายมากกว่า และควรได้รับการรักษาโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโรคสามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาความสะอาดและหลีกเลี่ยงพาหะนำโรค ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆที่ช่วยปกป้องชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความในหมวดเดียวกัน


ผู้เสีย.ชี.วิ.ต.จ.าก “ไ.ต.ว.า.ย” เพิ่มขึ้นทุกปี — หมอเตือน 6 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำถ้าอยากรักษาไตใ

พริกที่ซื้อมาห้ามเอาเข้าตู้เย็นทันที เก็บรักษาแบบนี้จะทำให้พริกสดใหม่ได้นานทั้งปี

พิสูจน์ความจริง! 4 อาหารที่ถูกเข้าใจผิดว่า “อันตรายต่อสุขภาพ”

5 สัญญาณมะเร็งเต้านมที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน — แต่อย่ามองข้ามเด็ดขาด

ร่างกายของคุณกำลังร้องขอความช่วยเหลือ — อย่ามองข้ามสัญญาณการขาดสารอาหารที่ซ่อนอยู่เหล่

สัญญาณเตือนเล็กน้อยของหลอดเลือดอุดตัน และวิธีทำให้หลอดเลื.อดกลับมาโล่งตามธรรมชาติ

นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบเหตุผลที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากในการกินไข่ทุกวัน

สาววัย 26 ปีไ.ตวายเฉี.ยบพลัน 3 ครั้งใน 2 ปี: 2 สิ่งนี้ถูกแพทย์ใส่ใน "บัญชีดำ" แต่หลายคนยังใช้อยู่บ

สารก่อม.ะ.เ.ร็.งชนิดหนึ่งถูกประกาศแล้ว WHO เรียกร้องให้หยุดบริโภค โปรดบอกพ่อแม่ของคุณหลังจา

ลู.ก 3 ขวบ อาเจียนฉั.บ หมอเผย "กิน" อะไรเข้าไป แม่ใจสลาย ปรี.ต.บหน้าผัวทันที

หญิงอายุ 58 ปี กินแต่ "ข้าวโพดต้ม" 3 มื้อต่อวัน หลังจากผ่านไป 1 ปี ไปตรวจสุขภาพ กลับได้รับผลลัพธ

ม.ะ.เ.ร็.งไม่เจ็บปวดในระยะแรก แต่หากพบ 8 สัญญาณนี้ขณะเข้าห้องน้ำ ควรรีบตรวจสุขภาพโดยเร็ว อย

พืชที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ทั้งใช้เป็นเครื่องปรุงและเป็นสมุนไพรชั้นยอดเพื่อสุขภาพ

ผลไม้ 2 ชนิดที่เซลล์มะ.เร็.งชอบมาก

หมอนที่ใช้มานานจนแฟบและเหลืองซีด แค่แช่กับของราคาถูกอย่างหนึ่ง ก็กลับมาขาวฟูและนุ่มเหม

หมอญี่ปุ่น เผยแค่กิน 2 สิ่งนี้ใน “มื้อเช้า” เคล็ดลับ น้ำหนักไม่ขึ้นตลอด 20 ปี แถมช่วยกำจัดไขม

ทำไมคุณถึงควรเสียบกุญแจไว้ที่ประตูก่อนเข้านอน?

มีคนไม่กี่คนที่รู้ว่าทำไมลำต้นของต้นไม้ถึงถูกทาสีขาว
บทความใหม่

แพทย์หญิงผู้ต่อสู้กับโรคม.ะ.เ.ร็งมา 3 ปี เสีย.ชี.วิ.ตกะทันหันจากโรคปอดอักเสบ

พืชสมุนไพรทรงพลังที่หลายคนมองข้าม

เช็กเองง่ายๆ "สีริมฝีปาก" บอกโรคได้ สัญญาณจากร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

หมอญี่ปุ่นลดน้ำหนัก 21 กิโลกรัม ไขมันพอกตับหายขาด! เคล็ดลับอยู่ใน "ไข่"

เวลาเช็ดพื้นบ้าน อย่าลืมใส่สิ่งนี้ลงไปในน้ำ พื้นจะไม่เกาะฝุ่น แถมสะอาดเอี่ยมได้ทั้งสัปด

ผู้เสีย.ชี.วิ.ต.จ.าก “ไ.ต.ว.า.ย” เพิ่มขึ้นทุกปี — หมอเตือน 6 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำถ้าอยากรักษาไตใ

ไร้เจ้าภาพงานกฐิน รักษาการเจ้าอาวาสทุกข์หนักบอกบุญญาติโยมช่วยวัดกันดาร พระป่วยอาพาธ

พริกที่ซื้อมาห้ามเอาเข้าตู้เย็นทันที เก็บรักษาแบบนี้จะทำให้พริกสดใหม่ได้นานทั้งปี

พนักงานทำกำไลหยกแตกกว่า 30 วง — แต่การรับมือของเจ้าของร้านชาวจีนกลับไม่คาดคิด

พิสูจน์ความจริง! 4 อาหารที่ถูกเข้าใจผิดว่า “อันตรายต่อสุขภาพ”

5 สัญญาณมะเร็งเต้านมที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน — แต่อย่ามองข้ามเด็ดขาด

ผักราคาถูกแต่แคลเซียมสูงกว่านม กินบ่อยสุขภาพกระดูกดี

ร่างกายของคุณกำลังร้องขอความช่วยเหลือ — อย่ามองข้ามสัญญาณการขาดสารอาหารที่ซ่อนอยู่เหล่

พายุ “เฟิงเฉิน” จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม! กรมอุตุฯ เตือนอีสานฝนฟ้าคะนอง – ใต้ระวังฝนถล่มหนัก 22–26

สัญญาณเตือนเล็กน้อยของหลอดเลือดอุดตัน และวิธีทำให้หลอดเลื.อดกลับมาโล่งตามธรรมชาติ

เทน้ำร้อนลงอ่างล้างจาน: การกระทำที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่ซ่อนอยู่สองความเสี่ยงใหญ่!

นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบเหตุผลที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากในการกินไข่ทุกวัน

"แมท ภีรนีย์" โพสต์คลิปน่าเอ็นดู "ลูกชายสนิทกับคุณยายมาก"
