สุขภาพ 29/10/2025 20:45

4 อาหาร กินครั้งเดียว "ดีต่อไ.ต" ไปอีกนาน ราคาถูก หาได้ง่าย แต่หลายคนกลับมองข้าม

4 สุดยอด "อาหารบำรุงไต" ยิ่งกินไตยิ่งดี หาซื้อง่าย แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้าม

ไต เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของเสียและรักษาสมดุลในร่างกาย แต่โรคไตมักค่อย ๆ พัฒนาอย่างช้า ๆ โดยไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก ปัจจัยอย่าง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเกาต์ ความอ้วน การใช้ยามากเกินไป หรือดื่มน้ำน้อย ต่างล้วนทำลายเซลล์ไตอย่างเงียบ ๆ หลายคนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ไตเริ่มเสื่อมไปแล้ว

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยลดสารพิษและบำรุงการทำงานของไตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาหาร 4 ชนิดต่อไปนี้ถือเป็น “เพื่อนแท้ของไต” ที่ทั้งราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายในตลาดบ้านเรา

1. เห็ดหูหนูดำ

เห็ดหูหนูดำขึ้นชื่อเรื่องการ ช่วยล้างลำไส้และดูดซับสารพิษ ในระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดภาระของไตในการขับของเสียออกจากร่างกาย อีกทั้งยังมีสาร โพลีแซ็กคาไรด์ และใยอาหารที่ช่วยลดไขมันในเลือดและความหนืดของเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะไขมันสูง ยูเรียสูง หรือเป็นเกาต์

นอกจากนี้ เห็ดหูหนูดำยังไม่มีสารพิวรีน (Purin) จึงปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีกรดยูริกสูง



2. มันเทศ

ถูกยกให้เป็น “ยาวิเศษในครัว” เพราะอุดมด้วยสารโพลีฟีนอลและเมือกธรรมชาติที่ช่วย ฟื้นฟูเซลล์ท่อไต เพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ที่มีโรคไตและเบาหวานร่วมกัน มันเทศถือเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมเพราะมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ย่อยง่าย และไม่เพิ่มภาระให้ไต

3. ฟักเขียว

ฟักเขียวมีรสจืด เย็น และมีโพแทสเซียมสูงแต่น้ำตาลต่ำ ช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ และลดความดันโลหิต เหมาะกับผู้ที่เป็น โรคไตอักเสบหรือมีภาวะบวม การกินฟักเขียวเป็นประจำช่วยลดภาระของไตและหัวใจได้ดี




4. ถั่วดำ

ถั่วดำอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ไอโซฟลาโวน วิตามิน และแร่ธาตุที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ช่วยบำรุงเลือดและลดภาระของไต เหมาะกับผู้หญิงที่มีปัญหาโรคไตเรื้อรัง เนื่องจากโปรตีนในถั่วดำเป็นโปรตีนจากพืช ซึ่งย่อยง่ายและไม่หนักต่อไตเท่ากับโปรตีนจากสัตว์

การดูแลไตให้แข็งแรงต้องมากกว่าการกิน

การรับประทานอาหารที่ดีต่อไตเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ควรควบคู่กับการดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น ควบคุมความดันและน้ำตาลในเลือด พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร และไม่ใช้ยาด้วยตนเอง สถิติชี้ว่า 40% ของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเกิดจากโรคเบาหวาน และอีก 20% มาจากความดันโลหิตสูง หากไม่ควบคุมสองโรคนี้ ต่อให้กินอาหารบำรุงไตแค่ไหนก็ไม่เกิดผล


แพทย์ยังเตือนว่าอย่าหลงเชื่อโฆษณา “ยาบำรุงไต” หรือ “อาหารเสริมเพิ่มพลัง” เพราะหลายชนิดมีสารโลหะหนักหรือฮอร์โมนแฝง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าชั่วคราว แต่ในความจริงกลับเป็นการ “เร่งใช้พลังไต” จนเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่