ความจริง 21/12/2025 14:11

ขาบวม มือบวม ไม่ใช่เรื่องเล็ก! สัญญาณเตือนโรคที่ร่างกายกำลังส่งเสียงขอความช่วยเหลือ

อาการ ขาบวม มือบวม เป็นสิ่งที่หลายคนเคยเจอ โดยเฉพาะหลังยืนนาน เดินทั้งวัน หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ หลายคนจึงมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เดี๋ยวก็หาย แต่รู้หรือไม่ว่า ในบางกรณีอาการบวมน้ำเหล่านี้ อาจไม่ใช่แค่อาการล้าของร่างกาย แต่อาจเป็น สัญญาณเตือนโรคสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม

จากภาพที่เห็น ข้อเท้าและเท้ามีลักษณะบวม ผิวตึง ดูหนากว่าปกติ ซึ่งเข้าข่ายอาการที่เรียกว่า “บวมน้ำ” (Edema) เกิดจากของเหลวสะสมในเนื้อเยื่อ หากเป็นเล็กน้อยและหายไปเอง อาจไม่อันตราย แต่ถ้าเกิดซ้ำบ่อย บวมทั้งสองข้าง หรือบวมร่วมกับอาการอื่น ต้องระวังให้มาก

ขาบวม มือบวม เกิดจากอะไรได้บ้าง?

สาเหตุของอาการบวมน้ำมีหลายระดับ ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงโรคร้าย ได้แก่

  • ยืนนาน นั่งนาน หรือกินเค็มจัด
    ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี ของเหลวคั่งในขา มักพบบวมช่วงเย็น และยุบลงเมื่อยกขาสูง

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    พบได้ในผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือวัยทอง

  • โรคไต
    หนึ่งในสาเหตุสำคัญ หากไตทำงานผิดปกติ ร่างกายจะขับของเสียและน้ำส่วนเกินออกไม่ได้ ทำให้เกิดอาการบวมที่ขา มือ ใบหน้า โดยเฉพาะช่วงเช้า

  • โรคหัวใจ
    หัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่ดี เลือดคั่งในหลอดเลือดดำ ส่งผลให้ขาบวม โดยมักบวมช่วงเย็นและเป็นเรื้อรัง

  • โรคตับ
    เมื่อตับทำงานผิดปกติ ระดับโปรตีนในเลือดลดลง ทำให้น้ำรั่วออกจากหลอดเลือด เกิดอาการบวมตามตัว

สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

หากคุณมีอาการเหล่านี้ร่วมกับขาบวม มือบวม ควรรีบพบแพทย์

  • บวมกดแล้วบุ๋ม

  • บวมไม่ยุบ แม้พักผ่อน

  • บวมร่วมกับเหนื่อย หายใจลำบาก

  • ปัสสาวะน้อยลง หรือมีฟองมากผิดปกติ

  • น้ำหนักขึ้นเร็วในระยะสั้น

อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหา ไต หัวใจ หรือระบบไหลเวียนเลือด ซึ่งหากปล่อยไว้อาจลุกลามรุนแรงได้

ดูแลตัวเองเบื้องต้นอย่างไรดี?

หากอาการยังไม่รุนแรง สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ เช่น

  • ลดอาหารเค็ม

  • ยกขาสูงขณะพักผ่อน

  • ขยับร่างกายบ่อย ๆ ไม่นั่งหรือยืนนาน

  • ดื่มน้ำให้เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป

แต่หากอาการบวมเกิดขึ้นบ่อย เป็นนาน หรือรุนแรงขึ้น อย่ารอให้สาย การตรวจสุขภาพและพบแพทย์ตั้งแต่ระยะแรก คือทางเลือกที่ดีที่สุด

สรุป

ขาบวม มือบวม ไม่ได้เป็นแค่อาการเล็กน้อยเสมอไป บางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่ร่างกายกำลังพยายามบอกเรา การใส่ใจสังเกตตัวเอง และไม่มองข้ามความผิดปกติเล็ก ๆ อาจช่วยให้คุณรักษาได้ทันก่อนจะสายเกินไป

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่