สุขภาพ 21/10/2025 17:37

แพทย์แนะนำคนเสียชีวิตจากโรคไตวายเพิ่มมากขึ้น: อย่ากินผัก 5 ชนิดนี้มากเกินไป

คนส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่าผักบางชนิดที่คุ้นเคยในมื้ออาหารประจำวัน หากรับประทานไม่ถูกต้องหรือมากเกินไป อาจทำให้ไต "ร้องขอความช่วยเหลือ" ได้

ไตเป็น “ตัวกรอง” สำคัญที่ช่วยให้ร่างกายกำจัดสารพิษและรักษาสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ อย่างไรก็ตาม มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าผักบางชนิดที่คุ้นเคยในมื้ออาหารประจำวัน หากรับประทานไม่ถูกต้องหรือมากเกินไป อาจทำให้ไต “ร้องขอความช่วยเหลือ” ได้ ด้านล่างนี้คือผัก 5 ชนิดที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

1.ขึ้นฉ่าย

ขึ้นฉ่ายอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และมีฤทธิ์ลดความดันโลหิตและระบายความร้อนในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ผักชนิดนี้มี กรดออกซาลิก (ออกซาเลต) ในปริมาณค่อนข้างสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ออกซาเลตจะรวมตัวกับแคลเซียมจนเกิด ผลึกแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งก่อให้เกิดนิ่วในไต

แพทย์แนะนำว่ามีคนเสียชีวิตจากโรคไตวายเพิ่มมากขึ้น: อย่ากินผัก 5 ชนิดนี้มากเกินไป - ภาพที่ 1

สำหรับผู้ที่มีประวัตินิ่วในไตหรือไตทำงานผิดปกติ การรับประทานขึ้นฉ่ายมากเกินไปอาจทำให้อาการแย่ลงได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานสลับกับผักชนิดอื่น ไม่ควรรับประทานเพียงอย่างเดียวหรือรับประทานเป็น ประจำ

2. ผักโขม

ผักโขมอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินเอ ซี และไฟเบอร์ แต่ก็เป็นผักที่ มีปริมาณออกซาเลตสูงที่สุด เช่นกัน การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้แคลเซียม “ถูกล็อก” และไม่ถูกดูดซึมได้ง่าย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เกิดนิ่วในไตหรือกระเพาะปัสสาวะได้

แพทย์แนะนำว่ามีคนเสียชีวิตจากโรคไตวายเพิ่มมากขึ้น: อย่ากินผัก 5 ชนิดนี้มากเกินไป - ภาพที่ 2

เพื่อลดสารพิษ ให้ลวกผักในน้ำเดือด และทิ้งน้ำแรกก่อนผัดหรือทำซุป นอกจากนี้ อย่ากินผักโขมติดต่อกันหลายวัน ให้เปลี่ยนเมนูเป็นผักที่มีออกซาเลตต่ำ เช่น กะหล่ำปลี ฟักทอง และฟักเขียว

3. เกาลัดน้ำ

ผักชนิดนี้มีรสชาติเบาบาง กรุบกรอบ และมักใช้ในอาหารผัด อย่างไรก็ตาม รากบัวมีสารออกซาเลตและแคลเซียมออกซาเลตจำนวนมาก ซึ่งละลายได้ยาก และอาจทำให้เกิดนิ่วในไตได้ง่าย นอกจากนี้ ผักชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นยาเย็น ผู้ที่มี ไตอ่อนแอหรือร่างกายเย็นจัด อาจมีอาการปัสสาวะน้อยลง ปวดหลัง และอ่อนเพลียหากรับประทานอาหารมากเกินไป

แพทย์แนะนำว่ามีคนเสียชีวิตจากโรคไตวายเพิ่มมากขึ้น: อย่ากินผัก 5 ชนิดนี้มากเกินไป - ภาพที่ 3

ก่อนปรุงอาหาร ให้ต้มสักครู่เพื่อลดออกซาเลต และรับประทานแต่พอประมาณ โดยเฉพาะหลีกเลี่ยงการรับประทานเป็นประจำในช่วงอากาศหนาวเย็น

4. มะระขี้นก

มะระขี้นกมีชื่อเสียงในเรื่องสรรพคุณในการระบายความร้อน ขับสารพิษ และช่วยลดน้ำตาลในเลือด อย่างไรก็ตาม มะระขี้นกมี สารควินินและออกซาเลต ซึ่งเป็นสารสองชนิดที่หากบริโภคมากเกินไปจะ กระตุ้นไตและทำลายเซลล์ ไต

แพทย์แนะนำว่าผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังเสียชีวิตจากภาวะไตวาย: อย่ากินผัก 5 ชนิดนี้มากเกินไป - ภาพที่ 4

โดยเฉพาะผู้ ที่มีอาการหนาวสั่น ปวดหลัง และปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ไม่ควรรับประทานมะระขี้นกเป็นประจำ เพราะมะระขี้นกมีฤทธิ์เย็น ลดพลังหยางได้ง่าย และส่งผลต่อการทำงานของไต ควรรับประทานแต่พอเหมาะ รับประทานคู่กับอาหารอุ่นๆ เช่น ขิงหรือเนื้อไม่ติดมัน

5. ถั่ว

ถั่วมี โปรตีนจากพืช จำนวนมาก ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การรับประทานโปรตีนจากพืชมากเกินไป จะทำให้ไตทำงานหนักเกินไปในการกรองของเสียไนโตรเจนที่เกิดขึ้นระหว่างการเผาผลาญ

สำหรับผู้ที่มี ภาวะไตวาย ไตอักเสบ หรือภาวะโปรตีนในปัสสาวะ การรับประทานถั่ว ถั่วงอก ถั่วเขียว ฯลฯ มากเกินไปอาจทำให้อาการแย่ลงได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การรับประทานอาหารที่สมดุล ควบคู่ไปกับผักที่มีโปรตีนต่ำ และหากคุณมีโรคไต ควรปรึกษานักโภชนาการ

แพทย์ยืนยันว่าไม่มีผักชนิดใดที่ “ไม่ดีโดยสิ้นเชิง” ปัญหาอยู่ที่ วิธีการกินและปริมาณที่กิน เมื่อคุณรู้วิธีสร้างสมดุลทางโภชนาการ เตรียมอาหารอย่างเหมาะสม และรับฟังร่างกายของคุณ คุณก็ยังคงได้รับประโยชน์จากคุณค่าทางโภชนาการของผักได้โดยไม่ ก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อ ไต

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่