สุขภาพ 21/10/2025 20:03

คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรทานอาหารเช้าเวลาไหนดีที่สุด? ไม่ใช่ 7 โมงเช้าอย่างที่หลายคนคิด

หลังอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรกินอะไรเป็น "อาหารเช้า" และกินเวลาไหนดีที่สุด? ไม่ใช่ 7 โมงเช้า อย่างที่หลายคนคิด

การทานอาหารเช้าอย่างถูกวิธีจะช่วยส่งเสริมสุขภาพและอายุยืนของผู้สูงวัยได้อย่างมาก แต่ละคนมีเวลาในการตื่นเช้าที่แตกต่างกัน บางคนตื่นตรง 7 โมงเช้า แต่บางคนอาจนอนถึง 8 หรือ 9 โมงเช้าก่อนจะเริ่มเตรียมอาหารเช้า

โดยเฉพาะหลังจากอายุ 60 ปี หลายคนเริ่มสังเกตว่าตนเองไม่สามารถทานอาหารเช้าได้เหมือนตอนที่ยังเด็ก และมื้อแรกของวันดูเหมือนจะมีความสำคัญมากขึ้น

ดังนั้นคำถามที่เกิดขึ้นคือ: หลังอายุ 60 ปี ควรทานอาหารเช้าอย่างไร? ควรกินตอนเวลาไหน? หมอเตือนว่า การทานอาหารเช้าไม่ถูกวิธีไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ ด้วย

ทำไมอาหารเช้าถึงสำคัญสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี?

สำหรับผู้สูงวัย อาหารเช้าที่มีคุณภาพมีผลต่อสุขภาพตลอดทั้งวันอย่างมาก อาหารเช้าไม่ใช่แค่การทานมื้อแรกของวัน แต่ยังเป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารสำคัญ

เมื่ออายุมากขึ้น ระบบการทำงานของร่างกายเริ่มเสื่อมถอย โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและการเผาผลาญ ดังนั้นการทานอาหารเช้าในเวลาที่เหมาะสมและครบถ้วน จะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ และยังช่วยป้องกันโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรืออ้วนได้

Người chăm ăn sáng hay bỏ bữa sáng khỏe mạnh hơn? Câu trả lời của chuyên  gia gây bất ngờ

เวลาอาหารเช้าที่เหมาะสม

เวลาทานอาหารเช้าก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน ช่วงเช้าระบบชีวภาพของร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ กระเพาะอาหารและลำไส้ยังคงอยู่ในกระบวนการเริ่มต้น หากทานอาหารเช้าเร็วเกินไป ระบบย่อยอาหารยังไม่พร้อม อาจทำให้เกิดความดันที่กระเพาะได้

ในทางกลับกัน หากทานอาหารเช้าช้าเกินไป ร่างกายอาจพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดูดซึมสารอาหาร การอดอาหารนานเกินไปอาจทำให้กรดในกระเพาะหลั่งออกมาเยอะ ทำลายเยื่อบุกระเพาะ และหากเป็นนานอาจนำไปสู่โรคกระเพาะได้

เวลาทานอาหารเช้าที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ควรทานภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน ในช่วงนี้ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ดีขึ้น และสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการตื่นสายและทานอาหารเช้าใกล้กับมื้ออาหารอื่นๆ ในวันนั้น

สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องทานยาทุกวันเพื่อควบคุมโรคเรื้อรัง ควรระวังในขณะทานอาหารเช้า: หลีกเลี่ยงการทานยาในขณะท้องว่างหากยานั้นอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ไม่ควรทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันสูงก่อนหรือหลังการทานยา เพื่อป้องกันไม่ให้ยาสูญเสียประสิทธิภาพ

Người Cao Niên Ăn Sáng Hình ảnh Sẵn có - Tải xuống Hình ảnh Ngay bây giờ -  Người cao tuổi, Bữa ăn sáng, Cà phê - Đồ uống nóng - iStock

ผู้สูงอายุควรทานอาหารเช้าอย่างไร?

  1. ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและดัชนีน้ำตาลต่ำ

ผู้สูงอายุมักพบปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงหรือไขมันในเลือดสูง ดังนั้นอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (GI ต่ำ) จึงเป็นตัวเลือกที่ดี เช่น

  • ธัญพืชเต็มเมล็ด (ขนมปังโฮลวีต, ข้าวโอ๊ต, ข้าวกล้อง) ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • อาหารที่มีไฟเบอร์สูงช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก
  1. เสริมโปรตีนเพื่อรักษาสุขภาพ

โปรตีนช่วยให้ร่างกายรักษามวลกล้ามเนื้อ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยืดระยะเวลาอิ่มท้อง อาหารที่มีโปรตีนสูงที่เหมาะสำหรับมื้อเช้าประกอบด้วย: ไข่, นม, เต้าหู้, เนื้อไม่ติดมัน หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ไขมันต่ำ เช่น โยเกิร์ต, ชีสไขมันต่ำ

  1. รับประทานผักใบเขียวและผลไม้ให้มาก

ผักและผลไม้ให้วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอกระบวนการชรา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น องุ่นและกล้วย หากเป็นผู้ป่วยเบาหวาน

  1. จำกัดอาหารที่มีน้ำมันและอาหารแปรรูป

อาหารที่มีน้ำมันมาก เช่น ขนมทอด ขนมปังทอด หรือเบอร์เกอร์อาจทำให้ย่อยยากและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนและความดันโลหิตสูง ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ เช่น ข้าวต้ม นมถั่วเหลือง หรือขนมปังโฮลเกรนแทน

การข้ามมื้อเช้าช่วยให้ร่างกายเบาขึ้นหรือไม่?

บางคนเชื่อว่าการข้ามมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายเบาขึ้น แต่สำหรับผู้ที่อายุเกิน 60 ปี การข้ามมื้อเช้าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก

การข้ามมื้อเช้าสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียน และอาจถึงขั้นเป็นลมได้ กระเพาะอาหารที่ว่างนานเกินไปก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะ

การไม่ทานอาหารเช้าจะทำให้กระบวนการเผาผลาญผิดปกติ ร่างกายสะสมไขมันและเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้หลายคนที่ข้ามมื้อเช้าจะมีแนวโน้มทานมื้อกลางวันมากเกินไป ซึ่งจะเพิ่มความดันให้กระเพาะอาหารและทำให้เกิดอาการย่อยไม่ดีและน้ำหนักขึ้น

เพื่อสุขภาพที่ดี ควรเลือกอาหารเช้าที่ย่อยง่าย อุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำมันมาก ควรเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ เช่น โยเกิร์ต ซีเรียลธัญพืช หรือถั่วต่างๆ และควรผสมผสานมื้อเช้ากับการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ

อาหารเช้าไม่ใช่แค่การทานอาหารเพียงมื้อหนึ่ง แต่เป็นการเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีสุขภาพ ดังนั้นหลังอายุ 60 ปี ควรให้ความสำคัญกับเวลาและคุณภาพของมื้อเช้าเพื่อรักษาสุขภาพในระยะยาว

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่