สุขภาพ 29/10/2025 10:54

คนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ! 4 อาหารในตู้เย็นที่เก็บไว้นาน อาจเป็น “ตัวช่วย” ให

คุณหวัง หญิงชราชาวจีนผู้อาศัยอยู่คนเดียว เชื่อเสมอว่า “การแช่เย็นปลอดภัย” ข้าวและซุปที่เหลือเพียงแค่ปิดฝาแล้วแช่เย็น แบ่งรับประทานได้ 2-3 วัน ซึ่งทั้งสะดวกและประหยัดแรง แต่ครึ่งปีที่แล้ว ระหว่างงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนๆ เธอกลับมีอาการท้องอืดและอุจจาระเป็นเลือดอย่างกะทันหัน หลังจากไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ผลการตรวจก็สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งครอบครัว นั่นคือมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะเริ่มต้น

“ฉันกินประหยัดและรักษาสุขอนามัยดีอยู่แล้ว ทำไมฉันยังป่วยอยู่ล่ะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงติดขัด คุณหมอถอนหายใจ ย้อนกลับไปดูพฤติกรรมการกินประจำวันของเธอ และพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอตกใจ “ตู้เย็นไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด โดยเฉพาะอาหาร 4 ชนิดที่อยู่ข้างล่างนี้ที่เก็บไว้นาน อันตรายมาก!”

ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งทวารหนักเพิ่มมากขึ้น: อาหาร 4 ชนิดที่ค้างอยู่ในตู้เย็นเป็นเวลานานคือ "ผู้สมรู้ร่วมคิด" - ภาพที่ 1

4 อาหารที่อยู่ในตู้เย็นนานทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังได้เตือนด้วยว่า การใช้ตู้เย็นอย่างผิดวิธี โดยเฉพาะพฤติกรรมการจัดเก็บที่ไม่ถูกวิธี มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการเพิ่มขึ้นของโรคนี้

ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลปักกิ่งยูเนียนกล่าวว่าอุณหภูมิที่ต่ำในตู้เย็นเพียงแต่ช่วยชะลอการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ สารพิษบางชนิดยังคงสะสมอยู่เรื่อยๆ นี่คืออาหาร “เสี่ยงสูง” สี่ชนิดที่ยังแช่เย็นอยู่:

1. ข้าวเหลือ:

นี่เป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการก่อตัวของไนไตรต์ สารนี้เมื่อรวมกับโปรตีนในลำไส้จะเกิดไดเมทิลไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่รุนแรงมาก งานวิจัยของสมาคมโภชนาการจีนแสดงให้เห็นว่าอาหารที่แช่เย็นไว้ข้ามคืนมีไนไตรต์มากกว่าอาหารปรุงสุกใหม่ถึง 8-10 เท่า

2. อาหารดอง:

ผักดอง เบคอน ผักดอง ผักดอง... มีเกลือและไนเตรตสูง แม้เมื่อแช่เย็นไว้แล้ว ยังคงมีตัวอย่างอาหารถึง 28% ที่มีปริมาณเกินมาตรฐานความปลอดภัย สำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ได้จัดกลุ่มอาหารนี้เป็นกลุ่ม 2A ซึ่งอาจก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์

3. อาหารปรุงสุกแล้วอุ่นซ้ำ:

อาหารประเภทเนื้อตุ๋น อาหารเย็น อาหารต้ม... หากอุ่นซ้ำแล้วแช่เย็น จะก่อให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารพิษที่เคยถูกมองว่าเป็น "สารฆ่าเซลล์" เมื่ออุ่นซ้ำมากกว่า 3 ครั้ง ปริมาณเบนโซไพรีนอาจเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับครั้งแรก

4. ผลไม้เสียหายและถูกบด:

ผลไม้ที่มีจุดดำและเชื้อรา แม้จะกำจัดส่วนที่เสียหายออกไปแล้ว ก็ยังคงมีอะฟลาทอกซินที่แพร่กระจายอยู่ภายใน เพียง 150 ไมโครกรัมของอะฟลาทอกซินก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ตับ ซึ่งส่งผลเสียร้ายแรงต่อระบบย่อยอาหาร รวมถึงลำไส้ใหญ่ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า 20% ของมะเร็งทางเดินอาหารทั่วโลกเกี่ยวข้องกับการได้รับพิษจากเชื้อรา

แพทย์แนะนำ: หลังจาก 24 ชม. ควรงดรับประทาน

“อย่าหลงคิดว่าการแช่เย็นไม่เป็นอันตราย อะไรก็ตามที่ทิ้งไว้นานเกิน 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปรุงสุกแล้วหรือดูเน่าเสีย ควรทิ้งไป” เขากล่าว “การเก็บไว้ก็เหมือนกับการแพร่เชื้อโรคในบ้าน”

งานวิจัยของสถาบันมะเร็งจีน (Chinese Cancer Institute) ที่ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักมากกว่า 10,000 คนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก พบว่าการลดการบริโภคอาหารที่แช่เย็นไว้เกิน 1 วัน การจำกัดอาหารเค็ม อาหารอุ่นร้อน และผลไม้เน่าเสีย สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ 20-30% หลายคนหลังจากเปลี่ยนพฤติกรรมเพียง 1-2 เดือน พบว่าอาการท้องอืด ท้องผูก และท้องเสียดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสุขภาพลำไส้ก็กลับมาดีอีกครั้ง

ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ครอบครัวที่มีนิสัยกินอาหารสด ปรุงพอประมาณ และทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ มีอัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลงร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ "ชอบประหยัด"

ระวัง! ไม่ทำความสะอาดตู้เย็น เสี่ยงติดเชื้อเสียชีวิต

4 หลักการ “จัดการตู้เย็น” ไม่ให้นำโรคเข้าสู่ร่างกาย

- ปรุงอาหารให้พอกินระหว่างวัน: ปรุงอาหารให้พอกิน หลีกเลี่ยงอาหารเหลือ “เตรียมอาหารให้ละเอียดหน่อยดีกว่ากังวลไปทั้งอาทิตย์”

- หากจำเป็นต้องเก็บรักษา : ควรรับประทานภายใน 24 ชม. เมื่ออุ่นให้ต้มให้เดือดทั่ว ห้ามอุ่นซ้ำหลายครั้งโดยเด็ดขาด

- อาหารดอง อาหารปรุงสุก ผลไม้อ่อน: ซื้อในปริมาณน้อย รับประทานอย่างรวดเร็ว และตรวจสอบบ่อยๆ หากเปรี้ยว เหนียว หรือขึ้นรา ให้ทิ้งทันที

- อย่าตระหนี่: การ "ประหยัด" เพียงเล็กน้อยในวันนี้ อาจทำให้คุณเสียสุขภาพในวันพรุ่งนี้ได้

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่