ความจริง 29/10/2025 15:10

เด็กชายพูดซ้ำ ๆ ว่ามีคนมองอยู่ที่หน้าต่าง... จนวันที่แม่รู้ความจริง – เธอถึงกับทรุดร้องไห้

เด็กชายวัย 5 ขวบพูดซ้ำ ๆ ว่า “มีคนมองอยู่ตรงหน้าต่าง” แม่คิดว่าแค่จินตนาการ... จนวันหนึ่งรู้ความจริงแล้วถึงกับร่ำไห้ “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฉันเอง”

เด็กทุกคนล้วนต้องการ “ความรักและความสนใจ” จากพ่อแม่ แต่บางครั้งเมื่อความสนใจนั้นหายไป ความโดดเดี่ยวก็เข้ามาแทนที่ — และมันอาจกลายเป็นความกลัวลึก ๆ ที่เด็กยังไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับ “สุ่ยฮวา” คุณแม่ชาวจีนและลูกชายวัย 5 ขวบชื่อ “เสี่ยวหาว” ที่วันหนึ่งจู่ ๆ ก็วิ่งมาบอกแม่ด้วยน้ำเสียงตื่นกลัวว่า

“แม่ครับ มีคนแอบมองผมอยู่ตรงหน้าต่าง”

ตอนแรกสุ่ยฮวาคิดว่าลูกดูการ์ตูนมากเกินไป หรือแค่ฝันกลางวัน เธอจึงเปิดผ้าม่านดูด้วยตัวเอง แต่ไม่พบใคร แล้วปลอบลูกว่า

“ไม่มีอะไรหรอกลูก แม่ว่า con มองผิดไปแน่ ๆ”

แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น...

หลายวันต่อมา เสี่ยวหาวเริ่มมีพฤติกรรมแปลกขึ้น เขาผวาเวลากลางคืน สะดุ้งตื่นร้องไห้ และบางวันถึงขั้นไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะเชื่อว่า

“คนที่อยู่ข้างนอกจะมาพาผมไป”

เมื่อเห็นอาการลูกหนักขึ้น สุ่ยฮวารีบพาไปหานักจิตวิทยาเด็ก ผลตรวจทำให้เธอแทบช็อก — หมอบอกว่า เด็กชายเกิดอาการหวาดกลัวจาก “ความรู้สึกขาดความอบอุ่นและความปลอดภัยในบ้าน” เพราะพ่อแม่เผลอละเลยลูกในช่วงที่ผ่านมา
Image previewImage preview

คำว่า “แม่ทำดีที่สุดแล้ว” อาจไม่พอ

หลังจากมีลูกคนเล็ก สุ่ยฮวาและสามีใช้เวลาทั้งหมดไปกับการดูแลทารกคนใหม่ พ่อที่เคยเล่นกับลูกชายทุกเย็น กลับเอาเวลาไปอุ้มลูกคนเล็ก แม่ที่เคยเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน ก็เปลี่ยนไปกอดลูกน้อยแทน

เด็กชายวัย 5 ขวบคนนั้นไม่รู้จะพูดยังไงว่า “ผมคิดถึงพ่อแม่”
เขาจึงจินตนาการว่ามี “ใครบางคนมองอยู่ข้างนอกหน้าต่าง” เพราะในใจลึก ๆ เขารู้สึกเหมือนถูกมองข้ามและไม่ปลอดภัย

พอหมออธิบายแบบนี้ สุ่ยฮวากับสามีถึงกับน้ำตาไหล — พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าความ “เงียบและความ ngoan ngoãn” ของลูก คือการอดทนต่อความเหงา

จากวันนั้น ทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนใหม่ พวกเขาแบ่งเวลาในแต่ละวันอย่างน้อย 15 นาทีเพื่ออยู่กับลูกชายคนโต ไม่ว่าจะอ่านนิทาน วาดรูป หรือเล่นต่อบล็อก พ่อยังคงช่วยเลี้ยงลูกคนเล็ก แต่จะไม่ลืมหันมาถามลูกชายว่า

“วันนี้ลูกมีความสุขไหม?”

และเขายังให้ลูกชายรู้ว่า “ลูกคือพี่ชายคนโตที่สำคัญของบ้าน” ได้รับความรักไม่ต่างจากเดิม

เพียงไม่กี่สัปดาห์ อาการหวาดกลัวก็หายไป เสี่ยวหาวกลับมาเป็นเด็กสดใสร่าเริงอีกครั้ง

บทเรียนจากเรื่องนี้

เด็กเล็กมักมีความรู้สึกไวและเปราะบาง บางครั้งสิ่งที่พวกเขาพูด เช่น “มีคนอยู่ข้างนอกหน้าต่าง” อาจไม่ใช่เรื่องหลอน แต่คือ “สัญญาณขอความรัก” ที่ผู้ใหญ่ต้องรับฟังให้ดี

การมีลูกเพิ่มเป็นความสุขของครอบครัว แต่ก็เป็นบททดสอบของ “ความเท่าเทียมทางความรัก” เช่นกัน เด็กไม่ได้ต้องการของเล่นราคาแพงหรือคำพูดหวานหู พวกเขาเพียงอยากรู้ว่า “พ่อแม่ยังรักฉันเหมือนเดิม”

เมื่อเด็กคนหนึ่งรู้สึกว่าได้รับความรักและการมองเห็น เขาจะไม่กลัว “คนแปลกหน้าข้างนอกหน้าต่าง” อีกต่อไป เพราะภายในบ้านของเขา — มีแสงแห่งความรักส่องอยู่แล้ว

เด็กหญิงวัย 4 ขวบพูดว่า “มีคนตามหนูมา” แม่ตามดูและพบความจริงที่ทำให้กลั้นน้ำตาไม่อยู่

อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สะเทือนใจผู้คนทั้งประเทศ

วันหนึ่ง เด็กหญิงวัย 4 ขวบเดินกลับจากโรงเรียนอนุบาล บอกแม่ว่า

“แม่จ๋า มีคนเดินตามหนูทุกวันเลย”

แม่ชื่อ “หลี่” ตอนแรกคิดว่าลูกพูดเล่น แต่เมื่อได้ยินซ้ำหลายวัน เธอเริ่มไม่สบายใจ จึงตัดสินใจแอบตามลูกไปโรงเรียนในเช้าวันถัดมา

เธอสวมหมวก ปิดหน้า เดินตามห่าง ๆ แล้วเห็นเงาร่างชายชราคนหนึ่งยืนอยู่หลังต้นไม้ใกล้โรงเรียน ทุกเช้าเขามองดูหลานเข้าเรียน และทุกเย็นก็เดินตามอยู่ห่าง ๆ ตลอดทางกลับบ้าน

ชายคนนั้นคือ... “คุณปู่ของเด็ก”

หลายเดือนก่อน พ่อของเด็กมีปัญหากับพ่อของเขาเอง เพราะเรื่องเงินและการเลี้ยงลูก จึงห้ามไม่ให้ปู่มาที่บ้านหรือเจอหลานอีกเลย

แต่ด้วยความรักที่ไม่อาจตัดขาด คุณปู่ยังคงเดินกว่า 3 กิโลเมตรทุกวัน มายืนมองหลานอยู่ไกล ๆ ฝนตกก็ถือร่ม แดดออกก็ใส่หมวก เขาไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะกลัวลูกชายโกรธ เขาเพียงอยากเห็นหลานปลอดภัยก็พอใจแล้ว

เมื่อแม่ของเด็กเห็นภาพนั้น เธอร้องไห้ทันที — ทั้งสะเทือนใจและรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ความโกรธของผู้ใหญ่ทำให้เด็กต้องห่างจากความอบอุ่นของครอบครัว
Bé gái 4 tuổi về nhà kể: "Có người đi theo con", mẹ lén theo dõi, phát hiện sự thật thì bật khóc nức nở- Ảnh 1.

ความโกรธของผู้ใหญ่... กลายเป็นบาดแผลของเด็ก

ความขัดแย้งในบ้านไม่ได้ทำร้ายแค่คู่สามีภรรยา แต่ยังทิ้งร่องรอยลึกในใจเด็ก เด็กอาจไม่พูด ไม่ร้องไห้ แต่ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว ความสับสน และความรู้สึกโดดเดี่ยว

เด็กที่เติบโตท่ามกลางเสียงทะเลาะจะสูญเสีย “ความรู้สึกปลอดภัย”
เด็กบางคนกลายเป็นคนเงียบ ไม่กล้าแสดงออก
บางคนกลับเก็บความโกรธไว้ในใจและใช้ความรุนแรงเมื่อโตขึ้น

และเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาอาจไม่เชื่อในคำว่า “ครอบครัว” อีกต่อไป

เด็กทุกคนต้องการเพียง “ความรักที่เท่าเทียมและความเข้าใจ”
อย่ามองข้ามคำพูดของพวกเขา แม้จะดูเล็กน้อย เพราะบางครั้ง “คำพูดที่ฟังดูไร้สาระ” อาจเป็นเสียงร้องที่ดังที่สุดจากหัวใจเล็ก ๆ

อย่าให้ความโกรธของผู้ใหญ่ หรือความเหนื่อยล้าของชีวิต ทำให้คุณลืมกอดลูกในวันนี้
เพราะสำหรับเด็ก... การได้รู้ว่าพ่อแม่ยังอยู่ตรงนี้ คือ “ความปลอดภัย” ที่มีค่าที่สุดในโลก

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่