ความจริง 07/11/2025 22:24

ปลา 4 ชนิดที่ “ควรถูกห้ามกิน” มานานแล้ว แต่หลายคนยังคงกินอยู่!

ปลา 4 ชนิดที่ “ควรถูกห้ามกิน” มานานแล้ว แต่หลายคนยังคงกินอยู่!
ไม่ใช่ปลาทุกชนิดจะดีต่อสุขภาพ

จากผลการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลและรับประทานปลาเป็นประจำทุกสัปดาห์ มักมีอายุยืนกว่าเฉลี่ย เพราะปลาทะเลอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3, DHA และ EPA ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ สมอง และช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย


4 loại cá đáng lẽ phải BỊ CẤM từ lâu, vậy mà nhiều người vẫn ăn- Ảnh 1.

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าปลาทุกชนิดจะควรกินได้อย่างปลอดภัย บางชนิดที่เรามักพบในตลาดหรือร้านอาหารริมทาง กลับแฝงความเสี่ยงต่อสุขภาพหากกินบ่อยเกินไป


1. ปลาตัวใหญ่เกินไป สะสมโลหะหนักมาก

ปลานักล่าอย่างปลาดาบ ปลาทูน่าขนาดใหญ่ หรือปลาคิงแมคเคอเรล เป็นปลาที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารทะเล จึงสะสมสารปรอทในร่างกายจำนวนมาก ซึ่งบางตัวมีค่ามากกว่ามาตรฐานหลายสิบเท่า
สารปรอทส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็กควรหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษ


Dấu hiệu phân biệt cá tươi và cá ươn, tránh ăn phải cá ươn thối


👉 ดังนั้น หากเห็นปลาตัวใหญ่ผิดปกติ ควรพิจารณาให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อ


2. ปลาที่ไม่สด เสี่ยงต่อการเกิดพิษฮิสตามีน

ปลาบางชนิด เช่น ปลาซาบะ หรือปลาทูญี่ปุ่น หากเก็บไว้นานหรือเก็บรักษาไม่ถูกวิธี เนื้อปลาจะเกิดการออกซิไดซ์ เหงือกเปลี่ยนสี เนื้อมีกลิ่นแปลก เมื่อเนื้อปลาเสียจะเกิดสารฮิสตามีน ทำให้หน้าแดง ใจสั่น และรุนแรงอาจต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล

👉 ปลาสดควรมีดวงตาใส นูน เงาสะท้อนแสงได้ชัด


3. ปลาที่เลี้ยงด้วยยาปฏิชีวนะหรืออาหารเร่งโต

ปลาน้ำจืดบางชนิดที่เลี้ยงในบ่อหนาแน่น มักใช้ยาปฏิชีวนะจำนวนมากเพื่อป้องกันโรค ทำให้ปลาโตเร็วผิดธรรมชาติ เนื้อยุ่ย อวัยวะภายในติดกันแน่นในช่องท้อง

👉 ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่มีใบรับรองความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงปลาที่อ้วนผิดปกติ เช่น ปลาดุกหรือปลาบาซ่าท้องพอง


4. ปลาที่ผ่านกระบวนการแปรรูปไม่ปลอดภัย

ปลาเค็มหรือปลาตากเกลือแบบดั้งเดิม หากเก็บไว้นานอาจเกิดสารไนโตรซามีน ซึ่งองค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็ง
แนวโน้มปัจจุบันคือใช้วิธีตากลมหรืออบแห้งแบบเย็น เพื่อคงรสชาติแต่ลดความเสี่ยง

ส่วนปลาทูน่า หากรับประทานซาชิมิส่วนท้องที่มีไขมันมาก ก็จะได้รับโลหะหนักมากกว่าส่วนเนื้อแดงทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกกินส่วนเนื้อแดงที่มีไขมันน้อยกว่า


นอกจากนั้น ยังมีปลาราคาถูกแต่คุณค่าทางโภชนาการสูง

ปลาซาร์ดีน ปลาฮิริง และปลากระป๋องที่สามารถกินกระดูกได้ เป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี และมีโอเมก้า-3 ไม่แพ้ปลาแซลมอน

ปลาทู ปลาบ้างะ (ปลามักเคอเรลเล็ก) ราคาย่อมเยา ย่างหรืออบเบา ๆ ก็ได้มื้ออาหารที่อุดมด้วยสารอาหาร

👉 ปลาสดควรมีตาใส เนื้อเด้ง มีกลิ่นทะเลอ่อน ๆ
นั่นคือเกณฑ์ที่ควรใช้เลือกปลา มากกว่าการดูจากรูปลักษณ์หรือสีสันของเมนูที่ดูน่ากินเกินจริง

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่