ความรัก 08/11/2025 22:00

กลับถึงบ้านเปิดฝาครอบข้าว เห็นกับข้าวของแม่ยายมีแต่ผักลวก

กลับถึงบ้านเปิดฝาครอบข้าว เห็นกับข้าวของแม่ยายมีแต่ผักลวก — ผมโมโหใส่ภรรยา แต่เธอกลับพูดเพียงคำเดียวแล้วเดินหนี

ลูกชายของผมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงใสซื่อว่า
“นั่นของคุณยายครับ พ่อ ตอนเที่ยงคุณยายก็ทานแบบนี้ทุกวันเลยนะครับ”

No photo description available.

ผมเคยคิดว่าชีวิตคู่ของผมคงไม่ลำบากนัก อย่างน้อยก็ไม่มีเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ให้ต้องปวดหัว เพราะพ่อแม่ของผมเสียไปตั้งแต่ผมยังหนุ่ม ภรรยาของผมจึงไม่ต้องอยู่ร่วมกับแม่สามีหรือมีใครมาคอยขัดแย้งด้วย แต่ในที่สุด ครอบครัวของผมก็ยังวุ่นวายไม่ต่างจากใคร

เราตอนนี้อยู่กับแม่ของภรรยา บ้านหลังนี้ภรรยาและผมเป็นคนซื้อด้วยกัน ส่วนแม่ยายไม่มีที่อยู่ เพราะท่านมีลูกเพียงคนเดียว ผมจึงเต็มใจให้มาอยู่ด้วยกันตั้งแต่ต้น

พูดถึงแม่ยาย — ท่านเป็นคนที่ใช้เงินเก่งมาก เรียกได้ว่า “ฟุ่มเฟือย” และไม่รู้คุณค่าของเงินนัก ตอนที่พ่อของภรรยายังอยู่ เขาทำงานหนักทั้งชีวิตเพื่อใช้หนี้จากความใช้จ่ายของภรรยา และเมื่อท่านเสียไป แม่ยายก็ยังไม่เลิกนิสัยนั้น แถมยังเอาเงินไปเล่นหวย จนสุดท้ายบ้านก็ถูกยึด เหลือเพียงหนี้ก้อนใหญ่ที่ตกมาบนบ่าของภรรยาและผม

ภรรยาของผมจึงมีความรู้สึกติดลบกับแม่ตัวเอง เธอมักบ่นเรื่องเงินอยู่เสมอ ถ้าแม่ทานอาหารได้ เธอก็บ่นว่าต้องซื้อของแพง ถ้าวันไหนแม่ไม่สบายกินไม่ลง เธอก็บ่นอีกว่า “ไม่รู้ค่าของของกิน” ผมอยู่ตรงกลาง ฟังแล้วก็เหนื่อยใจเหลือเกิน


Về nhà mở lồng bàn, thấy mâm cơm dành cho mẹ vợ toàn rau luộc, tôi nổi khùng với vợ vậy mà cô ấy đáp gọn lỏn một câu rồi bỏ đi - Ảnh 1.


ผมเองก็เข้าใจภรรยา เธอต้องทำงานเลี้ยงดูทั้งบ้าน ไหนจะยังต้องจ่ายหนี้แทนแม่ทุกเดือน จึงไม่แปลกที่เธอจะอัดอั้นและไม่ชอบแม่ตัวเอง แต่เมื่อผมพยายามปลอบให้เธอพูดดีกับแม่หน่อย เธอกลับตอบอย่างเย็นชาว่า
“ถ้าฉันมีแม่ที่ทำให้ชีวิตลูกลำบากแบบนี้ ฉันขอเกิดออกมาจากก้อนหินยังจะดีกว่า”


Về nhà mở lồng bàn, thấy mâm cơm dành cho mẹ vợ toàn rau luộc, tôi nổi khùng với vợ vậy mà cô ấy đáp gọn lỏn một câu rồi bỏ đi - Ảnh 2.

แต่ถึงอย่างนั้น ตั้งแต่แม่ยายมาอยู่กับเรา ท่านก็เลิกเล่นหวยอย่างสิ้นเชิง และไม่เคยโต้ตอบลูกสาวเลยเมื่อถูกต่อว่า ผมเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร

วันนี้ผมกลับบ้านเร็วกว่าปกติ ปกติผมไม่ค่อยได้กินข้าวเที่ยงที่บ้าน แต่บังเอิญงานเสร็จไวเลยแวะกลับมาหาลูก พอเดินเข้าบ้าน เห็นมีถาดอาหารวางอยู่บนโต๊ะ ผมเปิดฝาครอบดู — มีแค่ผักลวกกับน้ำจิ้มเล็กน้อยเท่านั้น

ผมเลยถามลูกว่า “ทำไมมีแต่ผักลวกครับ”
ลูกตอบอย่างไม่รู้เรื่องว่า “ของคุณยายนั่นแหละพ่อ ทุกวันคุณยายก็กินแบบนี้”

ผมถึงกับนิ่ง แล้วหันไปเรียกภรรยาออกมาถามด้วยความไม่พอใจ เธอกลับพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า
“ช่วงนี้หมูแพงค่ะ ฉันซื้อให้แต่ลูกเท่านั้น ฉันเองก็เหนื่อยจากงาน ส่วนลูกก็ต้องเรียนหนัก แม่อยู่บ้านทั้งวันไม่ได้ทำอะไร กินผักก็พอแล้ว อีกอย่าง ยังต้องเก็บเงินใช้หนี้แทนแม่อีกไม่ใช่เหรอคะ แม่ว่าไหม?”

แม่ยายได้ยินก็พยักหน้าเบาๆ แต่สีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้า ผมเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้

ผมเลยดึงภรรยาเข้าห้องไปคุยส่วนตัว แต่เธอกลับเถียงและไม่ยอมฟังอะไรเลย ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ปล่อยผมไว้กับแม่ยายที่นั่งเงียบๆ อยู่ตรงโต๊ะอาหาร

ตอนนั้นผมได้แต่นั่งนิ่ง ไม่รู้จะพูดยังไงดี เรื่องหนี้สินมันก็ผ่านไปแล้ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกสาวกลับยิ่งห่างออกไปทุกวัน ผมอยากให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจและเริ่มต้นใหม่ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง

ใครมีวิธีดีๆ ช่วยแนะนำผมหน่อยเถอะครับ... ผมแค่อยากให้บ้านหลังนี้กลับมาสงบ และให้มื้ออาหารของแม่ยายมีมากกว่าผักลวกจานนั้นอีกสักหน่อยก็ยังดี.

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่