เคล็ดลับ 24/10/2025 17:54

เคล็ดลับ ‘ลดรสเค็ม’ ของอาหารโดยไม่ต้องเติมน้ำเพิ่ม

เคล็ดลับ "ลดความเค็ม" ของอาหารโดยไม่ต้องเติมน้ำ

ในการทำอาหาร บางครั้งเราอาจเผลอใส่เกลือหรือน้ำปลาเกินไปจนทำให้อาหารเค็มเกินพอดี แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรหากไม่สามารถเติมน้ำได้?

Image preview

อาหารที่วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพดีแค่ไหน หากเค็มเกินไปก็จะเสียรสชาติและความอร่อยไปในทันที มาลองดูเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยลดความเค็มโดยไม่ต้องเติมน้ำกันค่ะ!

1. ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว

ความเปรี้ยวจากน้ำมะนาว น้ำส้มสายชู หรือผลไม้รสเปรี้ยวสามารถช่วยตัดรสเค็มได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้ใส่ทีละน้อยและชิมรสชาติจนกว่าจะพอดี ควรเลือกน้ำส้มสายชูที่มีรสชาติกลางๆ เช่น น้ำส้มสายชูกลั่นหรือน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว ซึ่งเหมาะกับอาหารหลายประเภท

2. ใช้ไข่ขาวดูดรสเค็ม

หากซุปหรือต้มแกงเค็มเกินไป สามารถใช้ไข่ขาวจากไข่ไก่หรือต้มเป็ดที่ยังไม่ตี ใส่ลงไปทั้งฟองแล้วต้มต่อประมาณ 5 นาที จากนั้นค่อยตักออก ไข่ขาวจะช่วยดูดความเค็มออกจากน้ำซุป ทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น

3. ลดความเค็มด้วยน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งช่วยลดรสเค็มได้อย่างดี และยังเพิ่มความหอมหวานให้กับอาหารประเภทต้มและแกง เพียงเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาแล้วคนให้เข้ากัน หากไม่มีน้ำผึ้ง สามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้เช่นกัน

4. ใช้มันฝรั่งช่วยดูดเกลือ

หั่นมันฝรั่งสดเป็นแผ่นหนาๆ แล้วใส่ลงในอาหาร ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที มันฝรั่งจะดูดซับเกลือส่วนเกินออก จากนั้นค่อยตักออก และสามารถปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามต้องการ

5. ใช้มะเขือเทศช่วยตัดเค็ม

มะเขือเทศเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีในการลดรสเค็ม เพียงหั่นมะเขือเทศเป็นแผ่นหนาๆ แล้วใส่ลงไปในอาหาร ปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาที ความเปรี้ยวอ่อนๆ ของมะเขือเทศจะช่วยปรับสมดุลของรสชาติได้ แต่ประสิทธิภาพอาจน้อยกว่าวิธีอื่นที่กล่าวมา

 

เคล็ดลับการปรุงรสให้อร่อยอย่างมืออาชีพ

  • เกลือ: ใส่ตอนน้ำเริ่มเดือดหรือตอนอาหารใกล้สุก
  • ผงชูรส: ใส่หลังจากปิดไฟแล้ว เพื่อคงความกลมกล่อม
  • ผงปรุงรส: ใส่ในขั้นตอนที่น้ำเริ่มเดือดหรือใกล้สุก
  • น้ำปลา: ควรใส่หลังจากอาหารสุกแล้วเพื่อคงความหอม
  • น้ำตาล: สำหรับแกงใส่หลังอาหารสุก แต่ถ้าเป็นเมนูผัดหรือย่างควรใส่ตอนปรุงรส

แค่ใช้เคล็ดลับเหล่านี้ อาหารที่เค็มเกินไปก็กลับมาอร่อยได้อีกครั้ง!

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่