สุขภาพ 07/11/2025 22:03

7 สัญญาณ “ชัดเจน” ที่บ่งบอกว่าเด็กอาจเป็นม.ะเ.ร็.งระยะเริ่มต้น: พ่อแม่ควรรีบพาไปโรงพยาบาลทั

7 สัญญาณ “ชัดเจน” ที่บ่งบอกว่าเด็กอาจเป็นม.ะเ.ร็.งระยะเริ่มต้น: พ่อแม่ควรรีบพาไปโรงพยาบาลทันที

มะเร็งในเด็กเป็นหนึ่งในความกังวลใหญ่ของพ่อแม่ทุกคน ดังนั้น “การรู้จักสัญญาณเตือนล่วงหน้า” จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถตรวจพบและรักษาได้ทันท่วงที


Dấu hiệu ung thư sớm ở trẻ cha mẹ nên biết - Ảnh 1.


แม้ว่าสาเหตุของโรคในเด็กส่วนใหญ่จะเกิดจากไวรัสหรือปัญหาทั่วไปอื่น ๆ แต่เด็ก ๆ ก็สามารถเป็นโรคมะเร็งได้เช่นกัน หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง มะเร็งในเด็กส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายได้

อย่างไรก็ตาม การตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะแรกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอาการของมะเร็งในเด็กมักคล้ายกับโรคทั่วไปอื่น ๆ ตามรายงานของ Hindustan Times (อินเดีย)


🔸 มะเร็งที่พบบ่อยในเด็ก


Dấu hiệu ung thư sớm ở trẻ cha mẹ nên biết - Ảnh 2.


มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) เป็นชนิดที่พบมากที่สุด รองลงมาคือเนื้องอกในสมอง นอกจากนี้ยังมีมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งกระดูก เนื้องอกในตา และเนื้องอกในไต


⚠️ สัญญาณเตือนที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

ตามคำกล่าวของ นพ. Vinay Munikoty Venkatesh จากโรงพยาบาล Manipal (ประเทศอินเดีย) มะเร็งในเด็กมักแสดงอาการดังนี้:

  1. มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ นานเกิน 2 สัปดาห์ และไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป

  2. ซีดผิดปกติ และอ่อนเพลียมากเกินไป

  3. มีรอยช้ำหรือเลือดออกง่าย เช่น ช้ำตามผิวหนัง เลือดออกตามเหงือกหรือจมูก

  4. มีก้อนหรือตุ่มบวมผิดปกติ ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น ก้อนแข็งที่คอ หรือรู้สึกแน่นที่ท้อง

  5. ปวดขา เดินกะเผลก โดยไม่มีการบาดเจ็บมาก่อน

  6. ปวดหัวตอนเช้า ร่วมกับอาเจียน

  7. ดวงตาหรือการมองเห็นเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เช่น มีจุดสีขาวเมื่อส่องไฟฉายเข้าตา

หากพบอาการเหล่านี้ในบุตรหลาน ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดทันที


❌ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมะเร็งในเด็ก

นพ. Vinay Munikoty Venkatesh กล่าวถึงความเข้าใจผิดที่ทำให้การรักษามะเร็งในเด็กล่าช้า ดังนี้:

  1. มะเร็งในเด็กรักษาไม่หาย → ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะหากตรวจพบและรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก โอกาสหายขาดมีสูงถึง 85–90%

  2. มะเร็งในเด็กเป็นโรคทางพันธุกรรม → ความจริงคือ 95% ของมะเร็งในเด็กไม่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม

  3. การรักษาเจ็บปวดมาก → ความจริงคือการให้เคมีบำบัดไม่ทำให้เจ็บปวดมากนัก คล้ายกับการฉีดยาทั่วไป

  4. เด็กไม่สามารถทนต่อการรักษาได้ → เด็กส่วนใหญ่ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี เพราะไม่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง

  5. การรักษามีผลข้างเคียงระยะยาว → ปัจจุบันแนวทางการรักษามะเร็งในเด็กได้รับการพัฒนาให้ลดผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด ตามรายงานของ Hindustan Times

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่