
4 นิสัย "ทำลายตับ" หลังตื่นนอนตอนเช้า แต่คนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ทำเป็นประจำทุกวัน
4 พฤติกรรมหลังตื่นนอนที่คนส่วนใหญ่ทำ หารู้ไม่กำลัง "ทำลายตับ" โดยไม่รู้ตัว คนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ใช้ชีวิตแบบนี้
ที่มณฑลซานตง ประเทศจีน คุณจาง วัย 53 ปี ป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบีมานานกว่า 30 ปี แต่กลับรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงดี ไม่เคยมีอาการผิดปกติใดๆ เขายังฝึกไทเก็กทุกวันเพื่อเสริมสุขภาพกายและจิตใจ
แม้ครอบครัวจะคอยกระตุ้นให้ตรวจสุขภาพอยู่เสมอ แต่เขากลับมองว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองและไม่เคยยอมไปตรวจ
นอกจากนี้ คุณจางยังมีนิสัยดื่มสุราวันละหลายแก้วก่อนนอน เพราะเชื่อว่าช่วยบำรุงกระดูกและกล้ามเนื้อ เขามองว่าชีวิตแบบนี้คือความสุขและเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลายคนใฝ่ฝัน
ไม่นานมานี้ คุณจางเริ่มมีอาการปวดไหล่ขวา ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเพียงอาการกล้ามเนื้อตึงจากการฝึกไทเก็ก จึงไม่ได้ใส่ใจนัก เพียงแค่ใช้แผ่นแปะบรรเทาปวด แต่หลังจากผ่านไปหลายวัน อาการไม่ดีขึ้น แถมยังมี เลือดกำเดาไหลและเลือดออกตามเหงือกบ่อยครั้ง
จนกระทั่งตอนนี้ คุณจางเริ่มตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา และรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ผลตรวจพบว่า ปริมาณไวรัสตับอักเสบบีสูงกว่าปกติถึง 7 เท่า การทำงานของตับผิดปกติ ค่าเอนไซม์ตับ (transaminase) สูงกว่า 500 ระดับอัลบูมินลดลงเหลือเพียง 27
นอกจากนี้ ผลอัลตราซาวนด์แสดงให้เห็นว่าตับ หน้าท้อง และม้ามมีความผิดปกติ โดยเนื้อตับหนาตัวขึ้น ม้ามโต และมีภาวะน้ำในช่องท้อง สุดท้ายแพทย์วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็น "โรคตับแข็ง"
ตับเป็นอวัยวะสำคัญในการเผาผลาญและขจัดสารพิษ ทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนและสะสมพลังงาน แต่หลายคนกลับมีพฤติกรรมในตอนเช้าที่เผลอทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว
1. ดื่มกาแฟหรือชาที่เข้มข้นขณะท้องว่าง
หลายคนเริ่มต้นวันด้วยกาแฟหรือชารสเข้มเพื่อกระตุ้นความสดชื่น แต่การดื่มขณะท้องว่าง กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และเพิ่มภาระให้ตับในการเผาผลาญสารเหล่านี้
คาเฟอีนและทีโอฟิลลีน ในกาแฟและชา ต้องอาศัยกระบวนการย่อยสลายของตับ การดื่มเป็นประจำขณะท้องว่าง อาจทำให้ตับได้รับความเสียหายและส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับในระยะยาว
สิ่งที่ควรทำ: เริ่มต้นวันด้วย น้ำอุ่น 1 แก้ว จากนั้นรับประทานอาหารเล็กน้อย เช่น ขนมปัง 1 ชิ้น หรือไข่ 1 ฟอง ก่อนดื่มกาแฟหรือชา เพื่อลดภาระต่อกระเพาะอาหารและตับ
2. การกลั้นปัสสาวะและไม่ลุกจากที่นอน
หลังจากตื่นนอนในตอนเช้า หลายคนมักจะกลั้นปัสสาวะเนื่องจากความง่วงหรือความขี้เกียจในการขยับตัว แต่หลังจากผ่านการเผาผลาญในช่วงกลางคืน สารพิษจำนวนมาก เช่น ยูเรียและกรดยูริก จะสะสมอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ หากไม่ถูกขับออกไปอย่างทันท่วงที สารพิษเหล่านี้อาจจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งจะเพิ่มภาระในการขจัดสารพิษให้แก่ตับ
สิ่งที่ควรทำ: ควรไปปัสสาวะทันทีเมื่อตื่นนอน เพื่อช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกและลดภาระการทำงานของตับ
3. ข้ามมื้อเช้าหรือทานอาหารเช้าที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
การข้ามมื้อเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงและตับต้องสลายกลัยโคเจนเพื่อใช้เป็นพลังงาน ซึ่งหากทำเป็นประจำจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับไขมัน
อาหารเช้าที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ขนมทอด, ของหวาน, หรืออาหารทอด จะทำให้ไขมันสะสมในตับมากขึ้น ส่งผลให้เกิดโรคไขมันพอกตับและโรคตับแข็งได้
สิ่งที่ควรทำ: เลือกทานอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โดยรวม โปรตีนคุณภาพสูง (เช่น ไข่, นม) + ใยอาหาร (เช่น ข้าวโอ๊ต, ขนมปังโฮลวีท) และผลไม้ ในปริมาณที่เหมาะสม
4. การสูบบุหรี่หรือดื่มสุราในทันทีหลังตื่นนอน
บางคนมีพฤติกรรมสูบบุหรี่หรือดื่มสุราหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า แต่ สารพิษจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ สามารถทำลายเซลล์ตับโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อท้องยังว่าง แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมได้เร็วขึ้น และมีพิษมากขึ้นต่อตับ การใช้เป็นเวลานานอาจนำไปสู่โรคตับจากแอลกอฮอล์, ตับแข็ง หรือแม้กระทั่งมะเร็งตับ
สิ่งที่ควรทำ: ควรเลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มสุรา โดยเฉพาะควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราหรือสูบบุหรี่ตอนท้องว่างในตอนเช้า
บทความในหมวดเดียวกัน


ฉันเรียนรู้จากคุณหมอญี่ปุ่นว่า การกิน 3 อาหารนี้ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ

ลดความเสี่ยงโรคตับ 50% ผู้เชี่ยวชาญเผยเคล็ดลับการกินง่ายๆ

โรคหัดทำอะไรกับร่างกายของคุณ

ทิปเพื่อสุขภาพดี: นี่คือผัก 6 ชนิดที่เปรียบเสมือน "เกราะป้องกัน" ม.ะเ.ร็.ง ทุกคนควรรู้

9 อาหารห้ามกินคู่กัน เสี่ยง ‘เกิดพิษ’ ในร่างกาย: แพทย์เตือนควรหลีกเลี่ยง

หยุดกินไข่ 4 ประเภทนี้ทันที ไม่เช่นนั้นอาจทำลายตับและไต ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

5 สัญญาณที่บอกว่าหัวใจของคุณกำลัง ‘มีปัญหา’

7 สัญญาณเริ่มต้นของโรคเบาหวานที่คุณไม่ควรมองข้าม

กินแบบญี่ปุ่น: 3 อาหาร “ต้านมะเร็ง” และยืดอายุขัย ประเทศไทยมีครบ แถมราคาถูก!

หนึ่งเดือนก่อนหัวใจวาย ร่างกายของคุณจะเตือนด้วย 5 สัญญาณนี้ โดยเฉพาะสัญญาณที่ 3

ขนมปัง "อร่อย ดี ถูก" แต่ มีคน 4 กลุ่มนี้ ที่ไม่ควรรับประทาน

หมอเตือนแล้ว! หากพบเปลือกไข่มี 4 ชั้นนี้ ให้ทิ้งมันทันที อย่าคิดประหยัดจนทำให้ตัวเองเสี่ย

6 อาการในตอนเช้าที่ไม่ควรมองข้าม สัญญาณเตือนโรคมะเร็งระยะเริ่มต้น

คุณควรรู้ว่ามีผักอยู่ 4 ชนิดที่เป็น “แหล่งอาศัยของพยาธิ” แต่หลายคนยังนิยมกินสด

4 เมนูต้องห้าม ห้ามกินเด็ดขาดหากเก็บค้างคืน

3 ความผิดปกติที่ขา ระวังไว้ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาผิดปกติในร่างกายคุณ (อาจเป็นมะเร็ง)

5 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดความดันโลหิตได้โดยไม่ต้องพึ่งยา ที่คุณสามารถเริ่มทำได้ทันที

มะเร็งกระเพาะอาหารส่วนใหญ่มักถูกตรวจพบในระยะท้าย 5 สัญญาณเตือนเบื้องต้นที่คุณควรใส่ใจ

ผลไม้ 5 ชนิดที่เป็น ‘ราชามะเร็ง’ ขึ้นบัญชีดำเพราะมีปรสิตและสารพิษมากมาย
บทความใหม่

คำสอนจากบรรพบุรุษ: 4 ต้นไม้ที่ปลูกหน้าบ้านทำให้ยากจน แต่ปลูกหลังบ้านช่วยเก็บทรัพย์ เงินทอ

ลักษณะของใบหูบอกได้ว่าคุณเป็นคนเปิดเผยหรือเก็บตัว

สัปดาห์ใหม่เปิดโอกาสทอง: 3 ราศีรับโชคลาภ การงาน และความรักที่สดใส

บรรพบุรุษเตือน: 'เข้าบ้านเจอ 3 สิ่งนี้ ครอบครัวแตกแยก ยากจะร่ำรวย' สิ่งนั้นคืออะไร?

5 นักษัตรที่โชคลาภพูนสุข ความสุขล้นมือในเดือน 5 จีน

ผู้หญิงเพียงแค่เตรียมตัวเงียบๆ 3 ปี โลกทั้งใบจะต้องมองคุณด้วยสายตาที่ต่างออกไป!

12 ราศีกับ ‘นิสัยลับ’ ที่คนไม่ค่อยรู้ – เปิดเผยตัวตนที่ซ่อนอยู่ลึกในใจ

4 ราศีที่ ‘ความรัก’ ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมากในปี 2025 – โอกาสหรือบททดสอบ?

12 ราศีกับวิธีจัดการกับความเครียดที่ใช่สำหรับตัวคุณ: เคล็ดลับผ่อนคลายจิตใจตามสไตล์แต่ละร

4 ราศีที่ ‘ความกลัว’ กำลังขวางทางสู่ความสำเร็จ – เรียนรู้ที่จะก้าวข้าม

5 ราศีที่ ‘เพื่อนรัก’ กลายเป็น ‘ศัตรู’ – ระวังมิตรแท้ปลอมตัว

4 ราศีที่ความรักมักมาพร้อม ‘บทเรียนเจ็บปวด’ แต่ทำให้คุณโตขึ้น

ราศีทั้ง 3 นี้มี “ความโชคดีทางลูกหลาน” ครอบครัวกลมเกลียว ลูกหลานกตัญญู อนาคตสดใส

จุดเปลี่ยนปี 2025: ราศีใด 4 ราศีที่จะเป็นจุดสนใจพร้อมโอกาสทอง?

ถอดรหัสความเสน่ห์อันไม่อาจต้านทาน: 5 ราศีที่ “หมื่นคนรัก”

นับจากเทศกาลเต๊ดโดนหง่อ 4 นักษัตรนี้จะได้รับการเกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ เทพเจ้าแห่งโชค

โบราณว่าไว้: "บ้านใดมี 3 สิ่งนี้ ครอบครัวจะเจริญรุ่งเรือง คนในบ้านจะมั่งมีศรีสุข" – สิ่งนั้น

เดือน 5 และ 6 นี้ เทพเจ้าโชคลาภเรียกชื่อ! 3 ปีนักษัตรเฮงจัด เห็นทองทางตะวันออก สัมผัสเงินทางต

คุณเห็นอะไรเป็นอย่างแรก? บ่งบอกว่าคุณเป็นคนสิ้นหวังหรือมองโลกในแง่ดี
