สุขภาพ 2025-04-22 16:37:09

งานวิจัยเผย การฟังเพลงช่วยฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็วขึ้นจริง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การบรรจบกันระหว่างวิทยาศาสตร์การแพทย์และดนตรีได้เปิดเผยข้อค้นพบที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีที่จิตใจและร่างกายสามารถเยียวยาได้ หนึ่งในข้อค้นพบที่น่าทึ่งที่สุดคือ การฟังเพลงสามารถเร่งการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดได้จริง ตามผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายฉบับ ดนตรีบำบัดไม่เพียงช่วยลดความเจ็บปวดและความวิตกกังวล แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยปกติแล้ว การฟื้นตัวจากการผ่าตัดมักเน้นที่ปัจจัยทางกายภาพ เช่น การใช้ยา โภชนาการ การพักผ่อน และกายภาพบำบัด อย่างไรก็ตาม การวิจัยสมัยใหม่ได้เริ่มเน้นความสำคัญของสุขภาพจิตและอารมณ์ในการฟื้นตัวทางร่างกาย ดนตรีซึ่งมีพลังพิเศษในการส่งผลต่ออารมณ์และสภาวะจิตใจจึงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้

มีการวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 7,000 ราย โดยมหาวิทยาลัย Brunel ในลอนดอน ซึ่งพบว่าผู้ที่ฟังเพลงก่อน ระหว่าง หรือหลังการผ่าตัด มีอาการเจ็บปวดน้อยลง ระดับความเครียดลดลง และใช้ยาระงับปวดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ฟังเพลงอย่างมีนัยสำคัญ ที่น่าสนใจคือ ประเภทของเพลงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ป่วยต้องรู้สึกเพลิดเพลินกับเพลงที่ฟัง

Music as Medicine: New Study Shows Listening to Music Can Ease Surgery  Recovery

แล้วปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในเชิงชีววิทยา? นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการฟังเพลงกระตุ้นการหลั่งของสารโดปามีนและเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับความสุขและการบรรเทาความเจ็บปวด สารเคมีเหล่านี้ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล ซึ่งส่งผลให้การอักเสบลดลงและการฟื้นตัวของร่างกายเร็วขึ้น นอกจากนี้ เพลงที่ฟังแล้วรู้สึกสงบยังช่วยชะลออัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย ซึ่งเหมาะสมต่อการฟื้นตัว

นอกจากประโยชน์ทางร่างกายแล้ว ดนตรียังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตของผู้ป่วยในช่วงพักฟื้นอีกด้วย หลายคนอาจรู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่หลังการผ่าตัด ดนตรีสามารถมอบความสบายใจ ความรู้สึกควบคุมตนเองได้ และเป็นช่องทางในการระบายความรู้สึก ปัจจุบันโรงพยาบาลทั่วโลกได้เริ่มนำโปรแกรมดนตรีบำบัดมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม

ที่สำคัญ ดนตรีบำบัดเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและไม่รบกวนกระบวนการรักษาอื่น ไม่เหมือนกับยา ดนตรีไม่มีผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงจากอาการแพ้ ด้วยเหตุนี้ หลายฝ่ายจึงเสนอให้ใช้ดนตรีเป็นองค์ประกอบเสริมในการรักษา โดยเฉพาะในสถานที่ที่ทรัพยากรจำกัด

ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ การศึกษาผู้ป่วยที่ฟื้นตัวหลังผ่าตัดหัวใจ พบว่าผู้ที่ฟังเพลงวันละ 30 นาที มีอัตราการเต้นของหัวใจที่มีความแปรปรวนดีขึ้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของสุขภาพหัวใจ เช่นเดียวกับผู้ป่วยในแผนกกระดูก ที่รายงานว่ารู้สึกพึงพอใจและเจ็บปวดน้อยลงเมื่อสามารถเลือกเพลงที่ตนเองชอบระหว่างการทำกายภาพบำบัด

แม้ว่าดนตรีบำบัดจะไม่ใช่ “ยาวิเศษ” และไม่ควรใช้แทนการรักษาทางการแพทย์แบบดั้งเดิม แต่หลักฐานจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นว่าการรวมดนตรีไว้ในแผนการฟื้นตัวสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ อนาคตเราอาจเห็นรายการเพลงที่ออกแบบเฉพาะบุคคลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุดดูแลหลังผ่าตัด

กล่าวโดยสรุป พลังในการเยียวยาของดนตรีไม่ใช่แค่คำพูดเชิงกวีอีกต่อไป แต่เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ การฟังเพลงไม่เพียงแต่สร้างความเพลิดเพลิน แต่ยังเป็น “เครื่องมือบำบัด” ที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นอย่างแท้จริง

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่