
โรคหัวใจ-สโตรก "กลัว" มาก! น้ำพื้นบ้านชนิดนี้ ที่ไทยมี ไม่ใช่ชา ไม่ใช่กาแฟ
น้ำชนิดนี้อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารหลากหลาย ช่วยปกป้องหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงหัวใจวายและอัมพาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหัวใจ หลายคนอาจนึกถึงชาเขียวหรือกาแฟเป็นอันดับแรก แต่ผลการวิจัยชี้ว่า ยังมีน้ำสีแดงชนิดหนึ่งที่ช่วย “ทำความสะอาด” เส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้เช่นกัน นั่นก็คือ น้ำทับทิม จากผลทับทิมที่คุ้นเคยกันดีในเวียดนาม
ความเชื่อมโยงระหว่างน้ำทับทิมกับความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง หรือ สโตรก (Stroke)
สื่ออังกฤษ Express รายงานว่า งานวิจัยพบว่าน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิด “ไม่ดี” (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการสะสมคราบพลัคในหลอดเลือด คราบพลัคเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดแข็งและตีบตัน ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดติดขัด และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอย่างกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือโรคหลอดเลือดสมอง
ศาสตราจารย์ไมเคิล อาวิราม แห่งสถาบันเทคโนโลยีอิสราเอล (Technion) ยืนยันว่า สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำทับทิมไม่เพียงช่วยยับยั้งการก่อตัวของคราบพลัค แต่ยังสามารถลดคราบที่มีอยู่แล้วในหลอดเลือด จึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ น้ำทับทิมยังช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างไนตริกออกไซด์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยควบคุมความดันโลหิต และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

งานวิจัยหนึ่งระบุว่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่ดื่มน้ำทับทิมต่อเนื่องหลายเดือน มีความหนาของผนังหลอดเลือดแดงคาโรติด (carotid artery) ลดลงถึง 30% ขณะที่กลุ่มควบคุมกลับมีความหนาเพิ่มขึ้น 9% ตามข้อมูลที่ Express รายงาน
ผู้วิจัยยังระบุว่า ผู้ที่ดื่มน้ำทับทิมเป็นประจำติดต่อกัน 1 ปี มีความดันโลหิตตัวบนลดลงถึง 12%
นักวิจัยอธิบายว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวมาจากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังของสารโพลีฟีนอลในน้ำทับทิม ซึ่งมีส่วนช่วยปกป้องเยื่อบุหลอดเลือด ลดการอักเสบ และเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบไหลเวียนเลือด
อีกหนึ่งงานวิเคราะห์ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pharmacological Research ก็ยืนยันว่า น้ำทับทิมสามารถลดได้ทั้งความดันโลหิตตัวบนและตัวล่าง โดยไม่ขึ้นกับปริมาณที่ดื่ม
ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงประเมินว่า น้ำทับทิมถือเป็น “อาวุธสำคัญ” ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองได้ หากควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่สมดุลและการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดี
ประโยชน์อื่น ๆ ของน้ำทับทิม
นอกจากช่วยดูแลหัวใจและหลอดเลือดแล้ว น้ำทับทิมยังมีคุณค่าอีกมากต่อสุขภาพ ได้แก่
- ป้องกันโรคมะเร็ง: ทับทิมอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แทนนิน ฟลาโวนอยด์ และแอนโทไซยานิน ที่ช่วยต่อต้านความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ ซ่อมแซมความเสียหายของ DNA และลดความเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งผิวหนัง
- เพิ่มความอึดและพลังงาน: น้ำทับทิมช่วยเสริมพลังงาน เพิ่มความทนทานระหว่างการออกกำลังกาย และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ป้องกันกระดูกพรุนและเสริมความจำ: โดยเฉพาะในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ น้ำทับทิมมีส่วนช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูก และช่วยให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ข้อควรระวังในการดื่มน้ำทับทิม
แม้น้ำทับทิมจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า
- ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ หรือกำลังใช้ยารักษาโรคหัวใจ ไขมันในเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม เนื่องจากทับทิมอาจลดประสิทธิภาพของยา หรือเพิ่มภาระให้ตับได้
- ในน้ำทับทิมมีน้ำตาลตามธรรมชาติค่อนข้างสูง (ราว 31–33 กรัมต่อแก้ว) หากดื่มมากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคไตจึงควรดื่มด้วยความระมัดระวัง
น้ำทับทิมเป็นเครื่องดื่มที่คนเวียดนามคุ้นเคย ใช้ดับกระหายมานาน ปัจจุบันยังสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ดูแลหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจวาย อัมพาต และแม้กระทั่งโรคมะเร็งได้
บทความในหมวดเดียวกัน


ชายอายุ 70 ปีคนหนึ่งเป็นอัมพาตเฉียบพลันหลังจากดื่มน้ำ และแพทย์เตือนว่ามีกรณีที่ห้ามดื่มน

ทำไมทั้งที่กาต้มน้ำไฟฟ้าสะดวกมาก แต่คนต่างชาติถึงไม่ค่อยใช้กัน?

คำเตือน: หากสังเกตร่างกายมีอาการผิดปกติแบบนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันโรคร้ายแ

ทำไมในห้องน้ำควรมีขวดน้ำมันหม่องไว้สักขวด? ประโยชน์พิเศษที่ทุกคนควรรู้!

ผักป่าที่เมื่อก่อนคนจนเท่านั้นที่กิน กลับกลายเป็นทั้งเย็นและมีประโยชน์ กินเพียงครั้งเด

ส่วนสองส่วนของหมูหนักแค่สองขีดเท่านั้น แต่มีคุณค่าเท่ากับโสมและรังนก ถ้าเห็นในตลาดอย่า

แค่กินกล้วยทุกเช้าเป็นเวลา 1 ปี หญิงวัย 66 ปีไปตรวจสุขภาพ หมอยังทึ่งกับผลลัพธ์!

ข้อห้ามเด็ดขาดในการกินกระเทียม รู้ไว้เสี่ยงให้ทัน ก่อนจะเสียใจ

ยาสมุนไพรล้ำค่า — ไม่ต้องปลูกก็ขึ้นเต็มสวน แต่หลายคนกลับเข้าใจผิดคิดว่าเป็นวัชพืช

อยากรู้ตับแข็งแรงไหม? แค่ดูที่เท้า หากมีสัญญาณ 1 ใน 5 ข้อนี้ ควรไปตรวจสุขภาพ!

แพทย์รพ.พะเยาสุดเจ๋ง ผ่.าตั.ด เปลี่ยนก.ระดู.กเ.ข่า-ส.ะโ.พกเทียม ไม่ถึงวันคนไ.ข้เดินได้-กลับฟื้

เห็นใครมีกล้ามเนื้อหรือเส้นเลื.อดสีเขียว ต้องบอกเขาเรื่องนี้ อาจช่วยชีวิตเขาได้

ผลไม้ไทยที่มหาเศรษฐีกินทุกเช้า เคล็ดลับต้านมะ.เร็.งอย่างได้ผล

วิธีไล่ทั้งฝูงหนูเพียงด้วยกำข้าวหนึ่งกำ ไม่ต้องพึ่งเหยื่อพิ.ษ

การนำน้ำต้มเนื้อมาต้มผัก ถูกหรือผิด? ผู้เชี่ยวชาญเผยคำตอบที่หลายคนคาดไม่ถึง

คนที่มี 4 ลักษณะนี้บนผิวหนัง ระวัง! ร่างกายอาจเต็มไปด้วยเซลล์มะเร็งโดยไม่รู้ตัว

สูตรทำน้ำขิงผสมน้ำผึ้งและมะนาว เสริมภูมิคุ้มกันในทุกวัน
บทความใหม่

ช่วงเวลาที่หญิงสาววัย 23 ปีที่ป่วยเป็น ม.ะเ.ร็.ง.เม็.ดเ.ลือ.ด.ข.าว นั่งร้องไห้ที่ทางเดินในโรงพย

3 ราศีได้ทองวันศุกร์ เจอความรักวันเสาร์ โชคลาภดีเด่น

5 วิธีดื่มชาที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่กลับทำให้ลำไส้ “ทรมาน”

ปลาชนิดนี้ราคาถูกกว่าปลาแซลมอน 1/5 แต่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าหลายเท่า

4 เมนูยอดฮิตที่คนไทยกินกันประจำ...แต่แอบมี ‘ป.ร.สิ.ต’ ซ่อนอยู่!

ปะเก็นตู้เย็นมีเชื้อรา ใช้สิ่งนี้ทำความสะอาด จะสะอาดภายใน 2 นาที

แช่ ปลาด้วยน้ำนี้: กลิ่นคาวของปลา จะหายไป และเนื้อปลาจะหวานขึ้นเป็นสองเท่า

ทำไม ‘ถุงเท้าเก่า’ ถึงกลายเป็นตัวช่วยดูแลห้องน้ำที่หอมสดชื่นได้?

เคล็ดลับ ‘ลดรสเค็ม’ ของอาหารโดยไม่ต้องเติมน้ำเพิ่ม

"เต๊ะ ศตวรรษ" เผชิญภาวะอาการป่.ว.ยจำหน้าคนไม่ได้ หลายคนส่งความห่วงใยกันล้นหลาม

5 สาเหตุหลักที่ทำให้ตู้เย็นค้าง - วิธีแก้ไขให้หายขาด

มี 4 จุดในบ้านที่คนฉลาดไม่เคยวางไม้กวาดเพื่อรักษาครอบครัวให้ปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองตลอ

นี่ต่างหากคือวิธีที่ได้ซุปไก่แน่น อร่อยหวาน เนื้อแน่นเชฟยังชมเลย

ชายอายุ 70 ปีคนหนึ่งเป็นอัมพาตเฉียบพลันหลังจากดื่มน้ำ และแพทย์เตือนว่ามีกรณีที่ห้ามดื่มน

เครื่องซักผ้าสั่นแรงและมีเสียงดังเวลาทำงาน? ปัญหานี้ไม่ต้องเรียกช่างก็แก้ได้ง่าย ๆ ด้วย

“สองแก้มไม่อิ่มเนื้อไม่ควรคบหา” – เหตุผล และเบื้องหลังความเชื่อโบราณ

ทำไมทั้งที่กาต้มน้ำไฟฟ้าสะดวกมาก แต่คนต่างชาติถึงไม่ค่อยใช้กัน?

หญิงวัย 29 ปี ถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังดื่มน้ำมะนาวจำนวนมากทุกเช้า ติดต่อกัน 4 สัปดาห์

คำเตือน: หากสังเกตร่างกายมีอาการผิดปกติแบบนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันโรคร้ายแ

