สุขภาพ 31/10/2025 10:04

7 ชนิดผักที่ยิ่งปรุงสุกยิ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

หลายคนมักเข้าใจว่าการกินผักสดคือทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเชื่อว่าสารอาหารในผักจะคงอยู่ครบถ้วนมากกว่าเมื่อผ่านการปรุงสุก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผักบางชนิดกลับมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นเมื่อผ่านการให้ความร้อน เพราะความร้อนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้ดีกว่าเดิม บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับผัก 7 ชนิดที่ “ยิ่งปรุงสุก ยิ่งดีต่อสุขภาพ”

1. มะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นผักยอดนิยมที่อุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด การปรุงมะเขือเทศให้สุก เช่น ทำซอสมะเขือเทศหรือต้มในซุป จะช่วยเพิ่มปริมาณไลโคปีนที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ถึงหลายเท่า เพราะความร้อนช่วยสลายโครงสร้างของเซลล์ผัก ทำให้สารสำคัญถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้น

2. แครอท
แครอทมีเบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ เมื่อผ่านการปรุงสุกจะทำให้ผนังเซลล์ของแครอทอ่อนลง และร่างกายสามารถดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ดีกว่าการกินดิบ นอกจากนี้แนะนำให้ปรุงด้วยน้ำมันเล็กน้อย เช่น ผัดหรือต้มในซุป เพราะไขมันจะช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันได้ดียิ่งขึ้น

3. ผักโขม (ปวยเล้ง)
ผักโขมมีธาตุเหล็ก แคลเซียม และกรดโฟลิกจำนวนมาก แต่ก็มีกรดออกซาลิกที่ขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้ การต้มผักโขมหรือผัดเบา ๆ จะช่วยลดกรดออกซาลิก ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น และยังทำให้ผักย่อยง่ายขึ้นอีกด้วย
Cách nhặt rau mồng tơi nhanh tiết kiệm thời gian nấu nướng

4. เห็ดต่าง ๆ
เห็ดเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชและมีสารเบต้ากลูแคน (Beta-Glucan) ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน การปรุงเห็ดให้สุกไม่เพียงช่วยทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจมีอยู่ในเห็ดดิบ แต่ยังช่วยให้สารอาหารถูกปลดปล่อยออกมามากกว่าเดิม การย่าง ต้ม หรือตุ๋นจึงเป็นวิธีที่ดีในการรับประทานเห็ด

5. หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งมีกรดโฟลิก วิตามินเอ ซี และอี รวมทั้งกลูตาไธโอนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การลวกหรือนึ่งหน่อไม้ฝรั่งเบา ๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ ทำให้ผักชนิดนี้ดีต่อระบบขับถ่ายและช่วยป้องกันการอักเสบภายในร่างกาย

6. พริกหวาน (Capsicum)
พริกหวานมีวิตามินซีสูงมาก แม้การให้ความร้อนจะทำให้วิตามินซีบางส่วนสลายไป แต่กลับช่วยเพิ่มการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่น แคโรทีนอยด์และลูทีน ซึ่งดีต่อสายตาและผิวพรรณ การผัดหรือนำไปอบจึงเป็นทางเลือกที่ดี

7. ฟักทอง
ฟักทองเป็นผักที่มีไฟเบอร์สูงและอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนเช่นเดียวกับแครอท เมื่อนำไปนึ่งหรือต้มจะช่วยให้เบต้าแคโรทีนเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ดีกว่ากินดิบ อีกทั้งยังช่วยให้ฟักทองมีรสหวานธรรมชาติและย่อยง่าย เหมาะกับทุกวัย

สรุปได้ว่า การปรุงผักให้สุกไม่ได้ทำลายสารอาหารเสมอไป แต่กลับช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารสำคัญบางอย่างได้ดีกว่าเดิม ทั้งยังช่วยให้ย่อยง่ายและปลอดภัยจากจุลินทรีย์ สำหรับใครที่อยากดูแลสุขภาพ การเลือกผักให้เหมาะกับวิธีการปรุงก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากอาหารในแต่ละมื้อ

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่