สุขภาพ 31/10/2025 20:21

หมอเมืองนอก เตื.อน "โ.ร.คข้าวผัด" มีอยู่จริง อาจถึงต.า.ยได้ คิดให้ดีก่อนกินข้าวเหลือ

หมอเมืองนอก เตือน “โรคข้าวผัด” มีอยู่จริง และอาจถึงตายได้ คิดให้ดีก่อนกินข้าวที่เหลือจากเมื่อวาน

แม้ว่าอาหารที่กินเหลือควรแช่ตู้เย็นไว้ แต่โดยทั่วไป ถ้าไม่ได้วางทิ้งไว้นานเกินไป ก็ยังพอรับประทานได้อย่างปลอดภัย แต่สำหรับข้าวและพาสต้า กลับต่างออกไป ถ้าปล่อยไว้ที่อุณหภูมิห้องแล้วนำมากินต่อ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง หรือร้ายที่สุดถึงขั้นเสียชีวิตได้

Cách làm cơm chiên Dương Châu và cách trang trí đẹp


“โรคข้าวผัด” คืออะไร?

“โรคข้าวผัด” คืออาการอาหารเป็นพิษชนิดหนึ่งที่เกิดจากแบคทีเรียชื่อ Bacillus cereus


Bacillus cereus เป็นแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปมาก แต่จะก่อปัญหาเมื่อปนเปื้อนในอาหารที่เก็บไม่ถูกวิธี

แม้ว่าข้าวและพาสต้าจะเป็นสาเหตุหลักของอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรียชนิดนี้ แต่อาหารที่ปรุงสุกแล้วอย่างผักหรือเนื้อสัตว์ก็สามารถปนเปื้อนและทำให้เกิดอาการได้เช่นกัน

อาการของ “โรคข้าวผัด” ได้แก่ ท้องเสียและอาเจียน ซึ่งบางคนอาจมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

ส่วนใหญ่โรคนี้ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ในปี 2008 เคยมีกรณีเศร้าเมื่อชายวัย 20 ปีเสียชีวิตจากภาวะนี้

วิธีป้องกัน “โรคข้าวผัด”

ในโพสต์อินสตาแกรมของ @drjoe_md ได้แนะนำวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้อาหารปลอดภัยมากขึ้น


เขาอธิบายในวิดีโอว่า ข้าวและพาสต้าควรหลีกเลี่ยงการวางทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเกิน 2 ชั่วโมงก่อนรับประทาน

นอกจากนี้ ยังเล่าว่า ตอนเรียนแพทย์มีประโยคจำง่าย ๆ ว่า “Re-heat rice, B. cereus” (อุ่นข้าวใหม่ ระวังบาซิลลัส ซีเรียส) เพื่อเตือนใจว่า ถ้าจะกินข้าวที่เหลือ ต้องอุ่นให้ร้อนก่อนเสมอ เพราะมีความเสี่ยงจากแบคทีเรีย Bacillus cereus



เพื่อความปลอดภัยของคุณ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เมื่อต้องจัดการกับอาหาร

เก็บข้าวและพาสต้าไว้ในที่แห้งและเย็น
ล้างมือด้วยสบู่ก่อนและหลังสัมผัสอาหาร
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารสุกทั่วถึง
อย่าปล่อยให้อาหารเย็นตัวนานเกิน 2 ชั่วโมง
อุ่นอาหารให้ร้อนอย่างทั่วถึงก่อนรับประทาน
เก็บอาหารที่เหลือในภาชนะที่ปิดสนิท
ทิ้งอาหารที่ปรุงเกิน 2 วันไปแล้ว

แม้ยุคนี้จะต้องประหยัดแค่ไหน แต่กฎง่าย ๆ คือ ถ้าไม่แน่ใจว่าอาหารยังปลอดภัยอยู่หรือไม่ อย่ากินดีกว่า

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่