กะหล่ำปลีถือเป็นผักที่หลายคนชื่นชอบ เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่ช่วยระบบขับถ่าย แต่แม้จะมีประโยชน์มากมาย แพทย์ก็เตือนว่า “ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับมัน” โดยเฉพาะ 4 กลุ่มคนต่อไปนี้ที่ควรหลีกเลี่ยง
1. ผู้ที่มีปัญหาไทรอยด์
ในกะหล่ำปลีมีสาร “กอยโทรเจน” (Goitrogen) ซึ่งอาจรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะถ้ากินดิบหรือกินบ่อยเกินไป คนที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำควรหลีกเลี่ยงหรือปรุงสุกให้ดี
2. ผู้ที่มีปัญหาท้องอืดหรือระบบย่อยไม่ดี
กะหล่ำปลีมีใยอาหารสูง ซึ่งดีต่อสุขภาพในระดับที่พอดี แต่ถ้ากินมากเกินไปอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะและท้องอืด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือคนที่มีระบบย่อยอ่อนแอ
3. ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดช่องท้อง
หลังการผ่าตัด ระบบย่อยอาหารยังไม่กลับมาทำงานเต็มที่ กะหล่ำปลีที่มีกากใยสูงอาจทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องและไม่สบายตัว แพทย์แนะนำให้รอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อนจึงค่อยกลับมากิน
4. ผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือด
ในกะหล่ำปลีมีวิตามินเคสูง ซึ่งอาจไปลดประสิทธิภาพของยาละลายลิ่มเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) ดังนั้นผู้ที่ใช้ยากลุ่มนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
สรุป
กะหล่ำปลีเป็นผักที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ก็ต้องกินอย่างมีสติและเหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละคน เพราะแม้แต่ของดี...ถ้ากินผิดวิธีก็อาจกลายเป็นโทษได้เช่นกัน.


































