สุขภาพ 03/11/2025 22:02

ปลาทะเล 3 ชนิด ที่สะสม “สารปรอท” และสิ่งปนเปื้อนมากที่สุด ราคาถูกแค่ไหนก็อย่าซื้อเยอะ

ปลาทะเล 3 ชนิด ที่สะสม “สารปรอท” และสิ่งปนเปื้อนมากที่สุด ราคาถูกแค่ไหนก็อย่าซื้อเยอะ

ต่อให้คุณชอบกินปลามากแค่ไหน ก็อย่าแตะต้องปลาทั้ง 3 ชนิดนี้ เพราะนอกจากจะสกปรกแล้ว ยังมีสารปรอทและสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ยิ่งกินยิ่งเสี่ยงต่อโรคภัย

ปลาเป็นอาหารที่อยู่คู่กับครอบครัวมานาน เพียงแค่มีเมนูปลาในสำรับก็ถือว่าเป็นมื้อที่ครบคุณค่าและดีต่อสุขภาพ เพราะปลามีสารอาหารเกือบทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ โดยเฉพาะช่วยเสริมพัฒนาการของเด็กและบำรุงสุขภาพของผู้สูงอายุ


3 loại cá biển "lắng đọng" nhiều thủy ngân và tạp chất bậc nhất, đi chợ thấy rẻ cũng đừng mua nhiều kẻo hại thân - Ảnh 2.


ศาสตราจารย์อีริก ริมม์ (Eric Rimm) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและโภชนาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard T.H. Chan School of Public Health) แนะนำให้คนเราควรกินปลาเป็นประจำทุกวัน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ปลาทุกชนิดจะดีต่อสุขภาพ เพราะบางชนิดมีการสะสมสารปรอทและสิ่งปนเปื้อนจากมลภาวะในทะเลสูงมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรง

หากรับประทานปลาที่มีสารปรอทมากเกินไป สารพิษจะสะสมในร่างกายจนส่งผลต่อระบบประสาท การได้ยิน และสภาพจิตใจ อีกทั้งยังอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้น เมื่อไปตลาดแล้วเห็นปลาทั้ง 3 ชนิดนี้ ควรหลีกเลี่ยงหรือกินให้น้อยที่สุด เพราะมัน “สกปรกกว่าที่คิดไว้”


3 ชนิดปลาที่มีสารปรอทและสิ่งปนเปื้อนมากที่สุด แม้ราคาถูกก็อย่าซื้อ


3 loại cá biển "lắng đọng" nhiều thủy ngân và tạp chất bậc nhất, đi chợ thấy rẻ cũng đừng mua nhiều kẻo hại thân - Ảnh 4.


1. ปลาทูเหลือง (Yellowstripe scad)

ปลาขนาดเล็กมีเกล็ดสีเงินเงาและมีแถบเหลืองตรงลำตัว รสชาติกลมกล่อมและนิยมนำไปทำปลาแห้งหรือตากแดด แต่มีการค้นพบว่าปลาทูเหลืองเป็นหนึ่งในปลาที่มีการสะสมสารปรอทสูงที่สุดชนิดหนึ่งในทะเลมาเลเซีย (อ้างอิงจาก SCIRP)
ปลาชนิดนี้มักมีขนาดเล็ก จึงมักกินในปริมาณมาก ทำให้ร่างกายสะสมโลหะหนักโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ปลาทูเหลืองตากแห้งราคาถูกมักถูกหมักกับสารเคมีและสีสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ศ. อีริก ริมม์ แนะนำว่าควรกินไม่เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร รวมถึงเด็กเล็ก ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด


2. ปลากะพงแดงทะเลลึก (Ocean perch)

แตกต่างจากปลากะพงในน้ำจืด ปลากะพงทะเลลึกจัดเป็นปลาที่มีโอกาสปนเปื้อนสารปรอทมากที่สุด ตามการจัดอันดับขององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เนื่องจากมันอาศัยอยู่ในระดับน้ำลึกซึ่งไม่โดนแสงแดด และเป็นปลาที่กินได้ทุกอย่าง จึงดูดซับสารพิษและจุลินทรีย์ได้ง่าย
การบริโภคปลาที่มีสารปรอทสูงในระยะยาวอาจทำให้เกิดพิษสะสม ส่งผลต่อเหงือก ปาก ระบบย่อยอาหาร และไตได้


3. ปลามาร์ลิน (ปลาธงทะเล / Swordfish)

ปลามาร์ลินมีขนาดใหญ่ เนื้อแน่น หอม และไม่มีก้างเล็ก ทำให้เป็นที่นิยมในหลายครัวเรือน แต่เพราะมันอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในทะเล จึงมักสะสมสารปรอทในระดับสูงมาก
นอกจากนี้ ยังไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเกาต์ เพราะมีสารพิวรีนสูง ซึ่งกระตุ้นอาการปวดข้อให้รุนแรงขึ้น และผู้ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัดก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะปลาชนิดนี้อาจทำให้แผลหายช้าและเกิดแผลเป็นได้


เคล็ดลับเลือกซื้อปลาสด

  • ตรวจดูเหงือกปลา ถ้ายังแดงแสดงว่าสด แต่ถ้าขาวซีดหรือดำคล้ำคือปลาไม่สด

  • เลือกปลาที่ยังมีชีวิต หรือถ้าเป็นปลาตายแล้วให้ดูที่ตา ปลาที่มีพิษสะสมจะมีตาขุ่นหรือโปนออกมา

  • ปกติปลาจะมีกลิ่นคาว แต่ถ้ามีกลิ่นแปลก เช่น กลิ่นน้ำมันหรือกลิ่นกระเทียม ควรหลีกเลี่ยง

  • ปลาที่ปนเปื้อนสารพิษมักมีรูปร่างผิดปกติ เช่น หัวโต หางเล็ก หลังคดงอ หรือมีสีเหลืองผิดธรรมชาติ

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่