สุขภาพ 09/11/2025 08:39

ทำไม “ถั่วลิสง” ถึงได้ฉายาว่าเป็น “โสมแห่งธัญพืช”? — แต่อย่าลืม! มี 4 กลุ่มคนที่ไม่ควรกินเด็

ถั่วลิสง หรือที่หลายคนเรียกว่า “ถั่วดิน” เป็นของกินเล่นราคาถูกที่อยู่คู่ครัวคนไทยมานาน ทั้งคั่ว ต้ม หรือบดใส่ในอาหาร แต่รู้หรือไม่ว่าในทางโภชนาการ ถั่วลิสงได้รับการขนานนามว่าเป็น “โสมแห่งธัญพืช” (Ginseng of Grains) เพราะมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก และให้พลังงานที่ดีต่อร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ถั่วลิสงก็ไม่ใช่อาหารที่ทุกคนจะกินได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะบางกลุ่มคนที่อาจเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าผลดี
Những lợi ích tuyệt vời của Lạc với sức khỏe

💪 เหตุผลที่ถั่วลิสงถูกเรียกว่า “โสมแห่งธัญพืช”

นักโภชนาการหลายประเทศ รวมถึงจีนและญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับถั่วลิสงไม่ต่างจากโสม เพราะมันอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย เช่น

  1. โปรตีนสูงกว่าธัญพืชทั่วไป – ถั่วลิสงมีโปรตีนมากถึง 25–30% ของน้ำหนักแห้ง เทียบเท่าเนื้อสัตว์บางชนิด เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อหรือมังสวิรัติ

  2. ไขมันดี (ไขมันไม่อิ่มตัว) – ไขมันในถั่วลิสงช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลดี (HDL) ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด

  3. วิตามินและแร่ธาตุ – อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินบี3 แมกนีเซียม และโฟเลต ซึ่งมีบทบาทในการบำรุงสมองและระบบประสาท

  4. สารต้านอนุมูลอิสระ – ถั่วลิสงมี “เรสเวอราทรอล (Resveratrol)” สารเดียวกับที่พบในไวน์แดง มีคุณสมบัติลดความเสี่ยงโรคมะเร็งและชะลอวัย

💬 ไม่แปลกเลยที่ในจีนมักเรียกถั่วลิสงว่า “長壽果” (ผลไม้แห่งอายุยืน) เพราะเชื่อว่ากินเป็นประจำช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว

⚠️ แต่ระวัง! 4 กลุ่มคนต่อไปนี้ไม่ควรกินถั่วลิสง

แม้ถั่วลิสงจะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีข้อควรระวังสำคัญ เพราะบางคนอาจได้รับผลเสียต่อสุขภาพได้
Ăn nhiều lạc có gây béo?

1. ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงหรือโรคอ้วน

ถั่วลิสงมีไขมันสูง แม้จะเป็นไขมันดี แต่ถ้ากินมากเกินไปจะเพิ่มพลังงานและทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

🔸 เคล็ดลับ: ควรกินวันละไม่เกิน 1 กำมือ (ประมาณ 20–25 เมล็ด) และหลีกเลี่ยงถั่วลิสงทอดหรือเคลือบน้ำตาล

2. ผู้ที่มีโรคเกาต์ (Gout)

ถั่วลิสงมี “พิวรีน” ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริก ถ้าระดับกรดยูริกในเลือดสูงเกินไปจะทำให้ข้อบวม ปวด และอักเสบ

🩺 ผู้ป่วยเกาต์ควรงดถั่วลิสงโดยเด็ดขาด หรือปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค

3. ผู้ที่มีโรคตับหรือไตเรื้อรัง

ถั่วลิสงที่เก็บไว้นานอาจมีเชื้อราที่ชื่อว่า “อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin)” ซึ่งเป็นสารพิษร้ายแรงที่ทำลายตับโดยตรง
หากผู้ป่วยโรคตับหรือไตกินเข้าไป อาจทำให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว

⚠️ ควรเลือกถั่วลิสงใหม่ ๆ ไม่มีกลิ่นหืน และเก็บในภาชนะปิดสนิท

4. ผู้ที่มีประวัติแพ้ถั่ว

ถั่วลิสงเป็นหนึ่งในอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรงที่สุดในโลก
อาการอาจเริ่มจากคันผิวหนัง ลมพิษ บวมที่หน้า หรือร้ายแรงถึงขั้น “ช็อกหมดสติ” ได้

❗ ถ้ามีอาการแพ้ถั่วชนิดอื่น ควรหลีกเลี่ยงถั่วลิสงด้วย

🌿 สรุป

ถั่วลิสงเป็นอาหารที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า อุดมด้วยโปรตีน ไขมันดี และสารต้านอนุมูลอิสระ จนได้รับฉายาว่า “โสมแห่งธัญพืช”
อย่างไรก็ตาม ความดีทั้งหมดจะกลายเป็นภัยได้ หากกินไม่ถูกวิธีหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง

🥜 “ถั่วลิสงจะเป็นยาหรือเป็นพิษ ขึ้นอยู่กับว่าใครกิน และกินแค่ไหน”

กินอย่างมีสติ เลือกถั่วลิสงที่สด สะอาด และในปริมาณพอเหมาะ แล้วมันจะกลายเป็น “ยาบำรุงจากธรรมชาติ” ที่ช่วยให้คุณแข็งแรงและอายุยืนได้จริง ๆ 💚

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่