ความจริง 28/10/2025 17:40

หลายๆ คน "วางยาพิษ" ตัวเองโดยเสียใจหรือขาดความรู้ ด้วยการใช้ตะเกียบ 5 ประเภทต่อไปนี้ทุกวัน

สิ่งของที่คุ้นเคยอย่างตะเกียบ หากเลือกใช้ผิดวิธี ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่าอาหารของคุณจะอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่การใช้ตะเกียบ 5 ประเภทต่อไปนี้ในการรับประทานอาหารก็ไม่ต่างอะไรกับการรับประทาน "ยาพิษ" หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ลองตรวจสอบว่าคุณมีตะเกียบอยู่ในบ้านหรือไม่ หากมี ให้ทิ้งทันทีก่อนที่โรคภัยจะมาเยือน

1. ตะเกียบพลาสติก โดยเฉพาะเมื่อใช้คีบอาหารร้อน

คำแนะนำจากใจจริง: หากคุณมีตะเกียบ 5 ประเภทนี้อยู่ในบ้าน ควรทิ้งทันที หากยังใช้ต่อไป แสดงว่าคุณกำลังกิน "ยาพิษ" อยู่ - ภาพที่ 1

ตะเกียบพลาสติกมีสีสัน ราคาถูก และน้ำหนักเบา แต่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ (ภาพประกอบ)

ตะเกียบพลาสติก โดยเฉพาะตะเกียบคุณภาพต่ำ อาจมีสารเคมีอันตราย เช่น BPA (บิสฟีนอล เอ) และพทาเลต นอกจากนี้ ตะเกียบพลาสติกยังมีความทนทาน แตกหรือหักง่าย และอาจปล่อยไมโครพลาสติกลงในอาหารได้ ตะเกียบพลาสติกยังทำความสะอาดยาก ฆ่าเชื้อได้ไม่ดีเท่าตะเกียบประเภทอื่น และทนความร้อนได้ไม่ดี หากใช้กับอาหารร้อนหรืออาหารที่มีกรด จะทำให้สารพิษถูกปล่อยออกมาเร็วกว่า ดังนั้น เพื่อปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จึงควรจำกัดการใช้ตะเกียบพลาสติก โดยเฉพาะตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้ง

2. ตะเกียบเซรามิกปลอมจะอันตรายมากขึ้นเมื่อใช้งานในอุณหภูมิสูง

ตะเกียบเซรามิกเทียมมักทำจากวัสดุคุณภาพต่ำและเคลือบด้วยสารเคลือบที่ไม่ได้มาตรฐาน สารเคลือบเหล่านี้อาจมีสารเคมีอันตราย เช่น ตะกั่วและแคดเมียม ไม่ว่าจะใช้กับจานเย็นที่มีกรดหรือจานร้อน สารเคลือบจะสลายตัวและปล่อยโลหะหนักลงในอาหาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นพิษหรือปัญหาสุขภาพในระยะยาว นอกจากนี้ ตะเกียบเซรามิกเทียมยังมีความเปราะบาง แตกหรือหักง่าย ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและสารพิษในรอยแตก

3. ตะเกียบไม้ไผ่หรือไม้ขึ้นราหรือใช้มานานเกินไป

คำแนะนำจากใจจริง: หากคุณมีตะเกียบ 5 ประเภทนี้อยู่ในบ้าน ควรทิ้งทันที หากยังใช้ต่อไป แสดงว่าคุณกำลังกิน "ยาพิษ" อยู่ - ภาพที่ 2

ไม้ไผ่และตะเกียบไม้ขึ้นราสามารถผลิตสารอะฟลาทอกซินซึ่งเป็นพิษร้ายแรงซึ่งก่อให้เกิดมะเร็งและโรคอันตรายอื่นๆ อีกมากมาย (ภาพประกอบ)

ตะเกียบทุกประเภทที่ขึ้นราควรทิ้งทันที โดยเฉพาะตะเกียบไม้ไผ่และตะเกียบไม้ เชื้อราเหล่านี้ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีปกติได้ ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อคุณภาพของอาหารเท่านั้น แต่ยังมีสารพิษอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง พิษ และการเสียชีวิตจากภาวะตับวายและไตวายเฉียบพลัน แม้ว่าตะเกียบไม้ไผ่และตะเกียบไม้จะไม่ขึ้นรา แต่ก็ควรเปลี่ยนตะเกียบใหม่ทุก 3-6 เดือน เนื่องจากเชื้อราอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ขณะเดียวกัน ไม้ไผ่และตะเกียบไม้สามารถดูดซับน้ำ รอยขีดข่วน และกลายเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับแบคทีเรียและเชื้อราได้ง่าย

4. ตะเกียบมีรอยขีดข่วนและแตกหัก

ตะเกียบที่เป็นรอยขูดขีดหรือแตกร้าวมักไม่ดีต่อสุขภาพ รอยขีดข่วนอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ง่ายในซอกมุมเหล่านี้ นำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดอาหารเป็นพิษเมื่อใช้งาน เมื่อตะเกียบแตกร้าว ไม่เพียงแต่ทำให้หยิบอาหารได้ยากเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดเศษอาหารที่อาจตกลงไปในอาหาร ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ ตะเกียบที่เป็นรอยขูดขีดหรือแตกร้าวยังอาจปล่อยสารพิษออกจากวัสดุที่ใช้ทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูงหรืออาหารที่เป็นกรด

 5. ตะเกียบสแตนเลสคุณภาพต่ำ

คำแนะนำจากใจจริง: หากคุณมีตะเกียบ 5 ประเภทนี้อยู่ในบ้าน ควรทิ้งทันที หากยังใช้ต่อไป แสดงว่าคุณกำลังกิน "ยาพิษ" อยู่ - ภาพที่ 3

หากต้องการใช้ตะเกียบสแตนเลส ให้เลือกตะเกียบที่มีคุณภาพดี และจำกัดการใช้กับอาหารร้อนหรืออาหารที่มีรสเปรี้ยว (ภาพประกอบ)

ตะเกียบสแตนเลสมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิม แต่มักมีราคาแพง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายคนเลือกใช้ตะเกียบสแตนเลสคุณภาพต่ำเนื่องจากขาดความรู้หรือต้องการประหยัดเงิน ตะเกียบสแตนเลสคุณภาพต่ำมักมีสิ่งเจือปนและโลหะหนักมากมาย เช่น ตะกั่ว แคดเมียม และนิกเกิล เมื่อสัมผัสกับอาหาร โดยเฉพาะอาหารร้อนหรืออาหารที่เป็นกรด สารเหล่านี้อาจรั่วไหลและเข้าสู่ร่างกาย นำไปสู่โรคร้ายแรงมากมาย สแตนเลสสามารถกักเก็บความร้อนได้ดี แต่ก็อาจทำให้เกิดแผลไหม้ได้ง่ายเมื่อใช้ร่วมกับอาหารร้อน ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนไป

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่