สุขภาพ 19/12/2025 23:00

หายใจลำบากต่อเนื่องนานกว่าสองสัปดาห์ ความจริงที่ทำให้หลายคนตกใจ

Image preview

ชายสูงวัยคนหนึ่งในวัยกว่า 70 ปี เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย หายใจลำบาก และมีอาการเจ็บแปลบที่หน้าอกด้านซ้ายเป็น ๆ หาย ๆ ติดต่อกันเกือบสองสัปดาห์ อาการบางช่วงรุนแรงขึ้น บางช่วงก็ทุเลาลง ทำให้เขาคิดว่าเป็นเพียงผลจากวัยชราหรือโรคประจำตัวที่กำเริบ จึงพยายามอดทนอยู่ที่บ้าน จนกระทั่งอาการหายใจลำบากแย่ลงอย่างชัดเจน ครอบครัวจึงรีบนำตัวส่งเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน

เมื่อเข้ารับการตรวจ แพทย์พบว่าการบีบตัวของหัวใจลดลงอย่างรุนแรง และมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างสมบูรณ์ ผลการตรวจเพิ่มเติมชี้ให้เห็นว่าเขาเคยผ่านเหตุการณ์อันตรายที่เกี่ยวข้องกับหัวใจมาก่อนโดยไม่รู้ตัว ประวัติความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เป็นมานานหลายปี รวมถึงการไม่ได้ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ทำให้อาการดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ในหลายกรณี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดกับหัวใจอาจไม่แสดงอาการชัดเจน ร่างกายสามารถใช้กลไกชดเชย โดยให้หลอดเลือดที่ยังทำงานได้ช่วยส่งเลือดไปเลี้ยงหัวใจแทน ทำให้อาการอันตรายผ่านไปโดยผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ผู้ป่วยอาจรู้สึกเพียงเหนื่อย หอบ หรือเจ็บหน้าอกเล็กน้อยแล้วหายไป จึงมักมองข้าม

เนื่องจากผู้ป่วยอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและระบบไหลเวียนโลหิตยังไม่คงที่ จึงยังไม่สามารถทำหัตถการได้ทันที ทีมแพทย์เลือกให้การรักษาด้วยยาเป็นหลัก เพื่อลดภาระของหัวใจ ควบคุมจังหวะการเต้น และปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต หลังผ่านไปไม่กี่วัน อาการเจ็บหน้าอกลดลง การหายใจดีขึ้น และสัญญาณชีพกลับมาคงที่

เมื่ออาการโดยรวมดีขึ้น ผู้ป่วยได้รับการตรวจระบบหลอดเลือดหัวใจอย่างละเอียด ผลพบว่าหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจหลายตำแหน่งตีบแคบอย่างรุนแรง บางส่วนอุดตันจากคราบไขมัน ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลงอย่างมาก ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของภาวะหัวใจล้มเหลวและการทำงานของหัวใจที่ถดถอยในระยะยาว ต่อมาผู้ป่วยได้รับการรักษาเพื่อเปิดทางหลอดเลือด แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ

เรื่องราวนี้เป็นสัญญาณเตือนถึงโรคหัวใจที่ดำเนินไปอย่างเงียบงันแต่แฝงด้วยอันตราย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการตรวจคัดกรองโรคหัวใจเป็นประจำสามารถช่วยตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แม้ในผู้ที่ยังไม่มีอาการชัดเจน ควบคู่กับการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ควบคุมปัจจัยเสี่ยง และปรับวิถีชีวิตให้สมดุล จะช่วยลดความเสี่ยงของเหตุการณ์รุนแรงทางหัวใจและปกป้องสุขภาพในระยะยาว


บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่