สุขภาพ 20/12/2025 18:28

เห็นข้าวมีลักษณะเช่นนี้ให้ทิ้.งทั.นที กินเข้าไปอาจอา.เจี.ยนและเกิดอาห.ารเ.ป็นพิ.ษ

ปรากฏการณ์ผิดปกติในข้าวนี้ทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกังวล และอาจทิ้งผลลัพธ์ที่ยากจะคาดเดาหากเผลอกินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร ข้าวสวย หรืออาหารคุ้นเคยในมื้อครอบครัว หลายคนยังมีนิสัยเก็บอาหารค้างคืน เพียงเพราะ “เสียดาย” หรือคิดว่าเหลือแค่นิดเดียวไม่น่ามีอะไร แต่จากนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้เอง ทำให้เกิดสถานการณ์ชวนตกใจขึ้นไม่น้อย เช่นกรณี “ข้าวเปลี่ยนเป็นสีชมพู” ที่เคยเป็นประเด็นร้อนในสังคมออนไลน์

เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งโพสต์เล่าว่า หลังมื้อเย็นมีเม็ดข้าวตกค้างอยู่ในอ่างล้างจาน และถูกทิ้งไว้ข้ามคืนโดยไม่ได้ปิดฝา เช้าวันถัดมา เขากลับพบว่าข้าวเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกตินี้ทำให้เจ้าของโพสต์เริ่มกังวล ตั้งข้อสงสัยว่าปัญหามาจากคุณภาพข้าว หรือเป็นเพียงปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ

Thấy gạo có hiện tượng này bỏ ngay lập tức, ăn vào nôn ói, nhiễm khuẩn đường ruột- Ảnh 1.

อย่างไรก็ตาม ใต้คอมเมนต์มีหลายความเห็นบอกว่านี่คือสัญญาณเชื้อรา หรือติดเชื้อราสีชมพู และแนะนำให้ทิ้งข้าวชุดนั้นทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย ขณะที่บางคนยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับคุณภาพข้าว แต่เกิดจากเชื้อราเพราะข้าวถูกทิ้งในที่อับชื้น

ความจริงแล้ว ปรากฏการณ์ข้าวเปลี่ยนเป็นสีชมพูไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ในหลายพื้นที่ก็เคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกัน และผลตรวจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงเหมือนที่หลายคนกังวล แต่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Serratia marcescens

แบคทีเรียชนิดนี้สามารถสร้างรงควัตถุสีชมพูแดงที่เรียกว่า Prodigiosin ทำให้อาหารเปลี่ยนสีเมื่ออยู่ในสภาพเหมาะสม เช่น ความชื้นและอุณหภูมิสูง แบคทีเรียชนิดนี้มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ทั้งในดิน น้ำ พืช และเติบโตได้ดีในสถานที่ชื้นอย่างห้องครัว อ่างล้างจาน หรือห้องน้ำ

นั่นหมายความว่า ข้าวที่ถูกทิ้งค้างคืนในสภาพชื้นและไม่มีการปิดฝา จะกลายเป็นแหล่งให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่า Serratia marcescens จะไม่ใช่เชื้อที่ก่อโรคบ่อย แต่บางกรณีอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตา หรือระบบทางเดินหายใจได้

Thấy gạo có hiện tượng này bỏ ngay lập tức, ăn vào nôn ói, nhiễm khuẩn đường ruột- Ảnh 2.

ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวค้างคืนเปลี่ยนเป็นสีชมพู ควรระวังดังนี้

  • ห้ามกินข้าวที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูโดยเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงอาหารเป็นพิษ

  • ทำความสะอาดพื้นที่ครัว อ่างล้างจาน และอุปกรณ์ที่สัมผัสกับข้าว

  • เลือกซื้อข้าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้

  • เก็บข้าวในที่แห้งและอากาศถ่ายเท

  • หุงข้าวในปริมาณพอดี หลีกเลี่ยงการทิ้งข้าวสุกไว้นานที่อุณหภูมิห้อง

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่