ความจริง 21/12/2025 20:16

ไม่กล้าทิ้งชามแกงปลา สุดท้ายต้องแลกด้วยช่วงเวลาการรักษาที่แสนทรมานและน่าหวาดหวั่น

ชายวัย 48 ปีในจังหวัดทานห์ฮว้า ถูกนำส่งเข้าศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลบั๊กไม ในอาการรุนแรง มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียนมาก ท้องเสีย และตัวเหลือง ผลการตรวจและการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าผู้ป่วยมีภาวะตับถูกทำลายอย่างรุนแรง ร่วมกับภาวะไตวายเฉียบพลัน ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

จากการซักประวัติพบว่า ก่อนหน้านั้นผู้ป่วยได้รับประทานแกงปลากระทิง (ปลาตระกูลปลาคาร์พ) ระหว่างการปรุงอาหาร ถุงน้ำดีของปลาแตกและปนเปื้อนอยู่ในแกง เมื่อรับประทานเข้าไป แม้จะมีรสขมชัดเจน ผู้ป่วยยังคงกินเนื้อปลาและดื่มน้ำแกงเกือบหมด ขณะที่คนอื่นในครอบครัวรับรู้ถึงรสขมจึงไม่รับประทาน หลังมื้ออาหารไม่นาน ผู้ป่วยเริ่มมีอาการปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียอย่างต่อเนื่อง และตัวเหลืองอย่างรวดเร็ว จึงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลฉุกเฉิน
Image preview

แพทย์วินิจฉัยว่าสาเหตุเกิดจากพิษน้ำดีปลา น้ำดีของปลาตระกูลปลาคาร์พ เช่น ปลาหญ้า ปลานิล ปลาคาร์พ มีสารพิษรุนแรงชื่อว่า 5α-cyprinol ซึ่งไม่ถูกทำลายด้วยความร้อนจากการปรุงอาหาร เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำลายเซลล์ตับและไต อาจนำไปสู่ภาวะตับวาย ไตวายเฉียบพลัน และเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด ติดตามการทำงานของตับและไต พร้อมการดูแลประคับประคองอย่างเข้มข้น แพทย์เตือนประชาชนอย่างเด็ดขาดว่าไม่ควรรับประทานหรือดื่มน้ำดีปลา หรือน้ำดีสัตว์ใด ๆ เนื่องจากไม่ได้มีสรรพคุณบำรุงสุขภาพตามความเชื่อพื้นบ้าน แต่กลับมีความเสี่ยงต่อการเกิดพิษรุนแรงอย่างมาก ระหว่างการปรุงปลา ควรกำจัดถุงน้ำดีออกให้หมด หากถุงน้ำดีแตกต้องล้างทำความสะอาดอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันสารพิษปนเปื้อนในอาหาร

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่