เคล็ดลับ 21/12/2025 22:09

ตู้เย็นเกิดน้ำแข็งเกาะ เปลืองไฟเพิ่ม 10–30% แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี?

ตู้เย็นเกิดน้ำแข็งเกาะ เปลืองไฟเพิ่ม 10–30% แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี?

หลังจากใช้งานไประยะหนึ่ง หลายคนจะพบว่าตู้เย็น โดยเฉพาะช่องแช่แข็ง มีน้ำแข็งเกาะหนา ปัญหานี้ไม่เพียงทำให้หยิบอาหารลำบาก แต่ยังทำให้หลายคนสงสัยว่า การเกิดน้ำแข็งเกาะจะทำให้ตู้เย็นกินไฟมากขึ้นหรือไม่


tủ lạnh, tủ lạnh đóng tuyết, công nghệ


ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตู้เย็นที่เกิดน้ำแข็งเกาะมักพบในตู้เย็นรุ่นเก่า หรือรุ่นที่ไม่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ (Defrost) เมื่ออากาศที่มีความชื้นเข้าไปในช่องแช่แข็ง ภายใต้อุณหภูมิต่ำ ไอน้ำจะควบแน่นและกลายเป็นน้ำแข็ง เมื่อเวลาผ่านไป น้ำแข็งจะหนาขึ้นและเกาะแน่นตามผนังตู้ ชั้นวาง และแม้แต่ท่อทำความเย็น ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง และใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น

สาเหตุที่ตู้เย็นเกิดน้ำแข็งเกาะ

  • ประตูตู้เย็นปิดไม่สนิท ทำให้อากาศชื้นจากภายนอกเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

  • เปิดประตูตู้บ่อย ทำให้อากาศร้อนและความชื้นเข้าไปในตู้

  • ใส่อาหารที่ยังร้อนลงในตู้ ทำให้เกิดไอน้ำและควบแน่นเป็นน้ำแข็ง

  • ไม่ได้ละลายน้ำแข็งเป็นประจำ ทำให้น้ำแข็งสะสมหนาขึ้นเรื่อย ๆ

ตู้เย็นที่มีน้ำแข็งเกาะกินไฟมากขึ้นจริง


tủ lạnh, tủ lạnh đóng tuyết, công nghệ


  • ชั้นน้ำแข็งเป็นฉนวนความร้อนที่ร้ายแรง
    หลายคนคิดว่าน้ำแข็งบาง ๆ ไม่ส่งผลต่อการทำงาน แต่ในความเป็นจริง น้ำแข็งเป็นตัวกั้นการถ่ายเทความร้อน เมื่อเกาะที่แผงทำความเย็นหรือผนังตู้ จะลดประสิทธิภาพการถ่ายเทความเย็น ทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักและนานขึ้นเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการ

  • คอมเพรสเซอร์ทำงานถี่ขึ้น
    เมื่อประสิทธิภาพความเย็นลดลง คอมเพรสเซอร์จะต้องทำงานต่อเนื่องมากขึ้น แทนที่จะหยุดพักตามรอบ ส่งผลให้ใช้ไฟฟ้ามากกว่าปกติ

จากการศึกษาบางแห่งพบว่า น้ำแข็งหนาประมาณ 5 มม. สามารถเพิ่มการใช้ไฟได้ 10–15% และหากหนามากกว่า 1 ซม. อาจทำให้สิ้นเปลืองไฟถึง 30% หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งานและรุ่นของตู้เย็น


tủ lạnh, tủ lạnh đóng tuyết, công nghệ


  • พื้นที่จัดเก็บลดลง
    น้ำแข็งกินพื้นที่ในช่องแช่แข็ง ทำให้พื้นที่ใส่อาหารลดลง ผู้ใช้จึงมักวางอาหารซ้อนกันแน่น ส่งผลให้ลมเย็นไหลเวียนไม่สะดวก เกิดการทำความเย็นไม่สม่ำเสมอ และตู้เย็นต้องใช้พลังงานเพิ่มเพื่อรักษาอุณหภูมิ

  • กระทบคุณภาพการถนอมอาหาร
    อากาศเย็นไหลเวียนไม่ดี ทำให้บางจุดในตู้เย็นเย็นไม่พอ อาหารจึงเสียง่าย

  • ทำความสะอาดและบำรุงรักษายาก
    น้ำแข็งเกาะหนาทำให้การเช็ดล้างตู้เย็นเป็นเรื่องลำบาก

  • เสี่ยงต่อการชำรุดของชิ้นส่วน
    หากปล่อยไว้นาน น้ำแข็งอาจกระทบต่อเซ็นเซอร์อุณหภูมิและพัดลม ทำให้อายุการใช้งานของตู้เย็นสั้นลง

วิธีใช้ตู้เย็นให้ไม่เกิดน้ำแข็งเกาะและประหยัดไฟ

  • เลือกตู้เย็นระบบ No Frost
    เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด ช่วยป้องกันการเกิดน้ำแข็งเกาะโดยสิ้นเชิง ตู้เย็นชนิดนี้ใช้พัดลมกระจายความเย็นและมีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ

  • ละลายน้ำแข็งเป็นประจำ
    สำหรับตู้เย็นทั่วไป ควรละลายน้ำแข็งทุก 2–3 สัปดาห์ เพื่อกำจัดน้ำแข็งที่สะสม

  • ปิดประตูตู้ให้สนิท
    ตรวจสอบยางขอบประตูอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการเปิดประตูทิ้งไว้นานหรือเปิดบ่อย

  • อย่าใส่อาหารร้อนลงตู้เย็น
    ไอน้ำจากอาหารร้อนจะเร่งการเกิดน้ำแข็งเกาะ

  • อย่าเรียงอาหารแน่นเกินไป
    ควรเว้นพื้นที่ให้ลมเย็นไหลเวียนได้สะดวก ช่วยให้ตู้เย็นทำงานมีประสิทธิภาพและประหยัดไฟ

ตู้เย็นที่เกิดน้ำแข็งเกาะไม่เพียงสร้างความไม่สะดวกในการใช้งาน แต่ยังทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว น้ำแข็งที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย อาจทำให้ตู้เย็นทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพและกินไฟมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเลือกตู้เย็นให้เหมาะสม ใช้งานอย่างถูกวิธี และบำรุงรักษาเป็นประจำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องและประหยัดค่าใช้จ่ายให้ครอบครัว

ในช่วงที่ค่าไฟสูงขึ้น การประหยัดจากรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างการป้องกันไม่ให้ตู้เย็นเกิดน้ำแข็งเกาะ ถือเป็นวิธีที่ฉลาดและคุ้มค่าไม่น้อย

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่