ความจริง 21/12/2025 20:34

อุบัติเหตุเพียงเสี้ยววินาที ทำให้ทารกวัย 9 เดือนต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลฉุกเฉิน

เมื่อไม่นานมานี้ โรงพยาบาลเด็กนครโฮจิมินห์ได้รับตัวและรักษาจนปลอดภัย เด็กชาย N.T.G.H. อายุ 9 เดือน (อาศัยอยู่ที่ตำบลเญินนิง จังหวัดเตยนิญ) ซึ่งมีอาการ ถูกน้ำร้อนลวกอย่างรุนแรง

📝 จากการซักประวัติพบว่า ประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการรักษา ขณะคนในบ้านกำลังต้มน้ำด้วยกาต้มน้ำไฟฟ้า เด็กได้เดินโซซัดโซเซเข้าไปบริเวณครัวและ ดึงสายไฟจนกาน้ำเดือดล้มใส่ตัว ทำให้เด็กถูกน้ำร้อนลวกบริเวณ ใบหน้า ลำคอ หน้าอก หน้าท้อง และแขนขา
ครอบครัวได้รีบใช้น้ำเย็นราดบริเวณแผลทันที และพาเด็กไปโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อปฐมพยาบาล ก่อนส่งต่อมายังโรงพยาบาลเด็กนครโฮจิมินห์
Image preview

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เด็ก H. อยู่ในภาวะ ช็อก มือเท้าเย็น ชีพจรเบา พื้นที่แผลไหม้คิดเป็นประมาณ 30% ของร่างกาย เป็นแผลไหม้ระดับที่ 2 หลายจุดมีตุ่มพอง แพทย์ได้ให้สารน้ำแก้ช็อก ช่วยพยุงการหายใจ ระงับปวด และดูแลแผลเบื้องต้น ก่อนส่งต่อไปยัง แผนกศัลยกรรมกระดูก–แผลไฟไหม้–ศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อรักษาต่อเนื่อง

ที่แผนกดังกล่าว เด็กได้รับการดูแลแผลไหม้ด้วย น้ำยาฆ่าเชื้อที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด และ ผ้าก๊อซชีวภาพ ที่ช่วยฆ่าเชื้อ กำจัดเนื้อเยื่อตาย กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ และไม่ติดแผลขณะเปลี่ยนผ้า พร้อมทั้งปรับสมดุลเกลือแร่ กรด-ด่าง ดูแลโภชนาการ และเฝ้าระวังภาวะช็อกจากการสูญเสียน้ำ รวมถึงการติดเชื้อของแผลไหม้อย่างใกล้ชิด
v

ตามคำกล่าวของ นพ.เฉพาะทางระดับ II เหงียน มินห์ เตียน รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็กนครโฮจิมินห์ ระบุว่า
อุบัติเหตุน้ำร้อนลวกเป็นหนึ่งในสาเหตุของแผลไหม้ที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่มาจากความซุกซนของเด็กและความเผลอเรอของผู้ใหญ่ ระหว่างทำอาหารหรือต้มน้ำ ผู้ปกครองควรวางกาต้มน้ำ หม้อ กระทะ ให้พ้นมือเด็ก และ ห้ามปล่อยสายไฟห้อยต่ำโดยเด็ดขาด เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีต้องมีผู้ใหญ่ดูแลตลอดเวลา

“เมื่อเด็กถูกน้ำร้อนลวก ต้องรีบใช้น้ำสะอาดอุณหภูมิเย็นราดอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความรุนแรงของแผลจากนั้นรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
ห้ามทายาสีฟัน น้ำปลา น้ำส้มสายชู หรือใช้วิธีพื้นบ้านใด ๆ เพราะอาจทำให้แผลรุนแรงขึ้นและทำให้การรักษาซับซ้อนมากกว่าเดิม”
— นพ.เตียน กล่าวเตือน

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่