ความจริง 18/12/2025 14:39

แพทย์ทหารเตือน 6 พฤติกรรม “ทำลายตับ” อย่างรวดเร็วรุนแรง ที่หลายคนทำเป็นประจำทุกวันโดยไม่ร

หลายคนคิดว่าตับเป็นอวัยวะที่ “อึด ถึก ทน” ต่อให้กิน ดื่ม หรือใช้ชีวิตหนักแค่ไหน เดี๋ยวตับก็ฟื้นตัวได้เอง แต่คำเตือนล่าสุดจาก พ.อ.นพ.สุรชัย วิริยะกุล แพทย์ทหารผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตับ ระบุชัดว่า ความคิดนี้อันตรายมาก เพราะพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน กำลังค่อย ๆ ทำลายตับอย่างเงียบ ๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย

“ผู้ป่วยจำนวนมากมาหาผมตอนตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ ทั้งที่ไม่เคยดื่มเหล้าเลย สาเหตุจริง ๆ มาจากพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ทำซ้ำทุกวัน” แพทย์ทหารกล่าว

1. กินผักสดโดยไม่ล้างให้ถูกวิธี

จากภาพที่ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ พบคราบสีและสารเคมีตกค้างบนผักใบเขียว โดยเฉพาะผักที่ปลูกเชิงอุตสาหกรรม
พ.อ.นพ.สุรชัยเตือนว่า สารเคมี ยาฆ่าแมลง และสีปนเปื้อน จะเข้าสู่ตับโดยตรง หากสะสมเป็นเวลานาน ตับต้องทำงานหนักและเสี่ยงตับอักเสบเรื้อรัง

2. กินอาหารแปรรูปทุกวัน

ไส้กรอก แฮม หมูยอ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ล้วนมีสารกันเสียและโซเดียมสูง ตับต้องเร่งกำจัดสารพิษเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง จนเกิด “ตับล้า” โดยไม่รู้ตัว

3. ดื่มน้ำหวานแทนน้ำเปล่า

หลายคนไม่ดื่มเหล้า แต่ดื่มชาไข่มุก น้ำอัดลม หรือน้ำหวานทุกวัน
แพทย์ทหารย้ำว่า น้ำตาลฟรุกโตส ทำให้เกิดไขมันพอกตับได้เร็วมาก และเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของโรคตับในคนรุ่นใหม่

4. กินยาและสมุนไพรโดยไม่จำเป็น

ยาแก้ปวด ยาลดไข้ รวมถึงสมุนไพรที่โฆษณาว่า “บำรุงตับ” หากใช้พร่ำเพรื่อ จะย้อนทำร้ายตับแทน
“ตับเป็นด่านแรกที่ต้องกำจัดยา ทุกเม็ดที่กินเกินจำเป็น คือภาระของตับ” แพทย์กล่าว

5. นอนดึกเป็นประจำ

ตับฟื้นฟูตัวเองดีที่สุดช่วง 23.00–03.00 น. หากอดนอนหรือนอนดึก ตับจะซ่อมแซมตัวเองไม่ทัน ทำให้เสื่อมเร็วขึ้น

6. ดื่มแอลกอฮอล์ “เล็กน้อยแต่ทุกวัน”

หลายคนคิดว่าแค่วันละแก้วไม่เป็นไร แต่ในมุมแพทย์ทหาร นี่คือการทำร้ายตับแบบเรื้อรัง
“ไม่มีคำว่าปลอดภัยสำหรับแอลกอฮอล์ ถ้าดื่มเป็นประจำ” พ.อ.นพ.สุรชัยกล่าวอย่างชัดเจน


แพทย์ฝากเตือน

หากมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือผิวคันโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่ารอ เพราะตับมักไม่ส่งสัญญาณจนกว่าจะเสียหายหนักแล้ว

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่