ข่าว 18/12/2025 19:03

ผู้คนกว่าหนึ่งล้านคนไม่สังเกตเห็นคว.ามผิ.ดป.กติในภาพวาด ค.รูจึงต้องโท.รเรี.ยกผู้ปก.คร.องอย่

จนกระทั่งครูได้อธิบาย โดยครูเล่าว่าเธอได้โทรหาผู้ปกครองทันทีที่ได้รับภาพวาดชิ้นนี้จากนักเรียน

เมื่อไม่นานมานี้ บนโซเชียลมีเดีย TikTok ได้เกิดกระแสจากคลิปที่ถ่ายภาพวาดของนักเรียนคนหนึ่ง พร้อมแคปชันว่า
“นักเรียนวาดภาพ ‘บ้านของฉัน’ ครูเพียงแค่เห็นก็โทรเรียกผู้ปกครองให้พาเด็กไปตรวจทันที”

Hơn 1 triệu người không nhận ra điều lạ trong bức tranh, cô giáo phải gọi phụ huynh đưa con đi khám gấp- Ảnh 1.

ชาวเน็ตจำนวนมากยอมรับว่าพวกเขาดูภาพนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายสิบครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถสังเกตเห็นความแปลกประหลาดใด ๆ ได้ บางคนคาดเดาว่าอาจเป็นความเศร้าหรือความขาดแคลน เพราะในภาพมีเพียงเด็กยืนอยู่กับพ่อ เสื้อของพ่อดูเหมือนจะขาดเล็กน้อย หรือบ้านดูเรียบง่ายเกินไป และทำไมในภาพบ้านของเด็กถึงไม่มีแม่
แม้จะมียอดรับชมมากกว่าหนึ่งล้านครั้งและคอมเมนต์นับพัน แต่ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบที่ถูกต้องอย่างแท้จริง

จนกระทั่งครูได้ชี้ให้เห็นปัญหาในภาพ ทุกคนจึงถึงกับอึ้ง ความจริงแล้วปัญหาอยู่ที่ “สี” ของภาพวาด
ครูอธิบายว่ากล่องสีมีสีสันมากมาย และในคาบวาดรูป เด็ก ๆ คนอื่นต่างระบายสีผลงานของตนอย่างสดใส แต่เมื่อครูหันมามองภาพของนักเรียนคนนี้ เธอก็สังเกตเห็นความผิดปกติทันที

ภาพวาดมีเพียงสีเดียว และยังเป็นสีดินสอสีดำ ใบหน้าของตัวละครในภาพไม่ยิ้ม ต้นไม้ก็ดูเหี่ยวเฉาเอนลง

ในความเป็นจริง เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน คุณแม่พาลูกสาวไปเรียนวาดภาพได้เพียงไม่กี่วัน ก็ได้รับโทรศัพท์จากครู

“แม่เป็นคนพาเด็กมาที่ชั้นเรียนวาดภาพ แต่ในภาพกลับไม่มีแม่ปรากฏอยู่ เด็กหลายคนมักจะวาดคนที่ตนชอบมากกว่า หรืออาจกำลังงอนแม่ ซึ่งก็พอเข้าใจได้
แต่ภาพที่ใช้เพียงสีเดียวแบบนี้ถือว่าอันตรายมาก เพราะอาจบ่งบอกว่าเด็กกำลังมีปัญหาทางจิตใจ หรือมีบาดแผลทางอารมณ์” ครูกล่าว

ด้วยเหตุนี้ ครูจึงโทรแจ้งผู้ปกครองเพื่อพูดคุยทันที เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณแม่ที่ปลายสายก็รู้สึกสับสน เธอยืนยันว่าลูกสาวเป็นเด็กเรียบร้อย แทบไม่เคยหงุดหงิดหรือแสดงอาการผิดปกติใด ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากวางสาย รายละเอียดในภาพวาดก็วนเวียนอยู่ในหัว ทำให้เธอไม่อาจวางใจได้ วันถัดมา คุณแม่จึงตัดสินใจพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็ก

Hơn 1 triệu người không nhận ra điều lạ trong bức tranh, cô giáo phải gọi phụ huynh đưa con đi khám gấp- Ảnh 2.

แพทย์ได้พิจารณาภาพวาดอย่างละเอียด และให้การวิเคราะห์ที่ทำให้คุณแม่ถึงกับนิ่งอึ้ง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ภาพทั้งภาพใช้เพียงสีเดียวคือสีดินสอสีดำ ไม่มีสีสันสดใสเลย รายละเอียดอย่างต้นไม้ หญ้า ก้อนหิน ถูกวาดด้วยเส้นที่ยุ่งเหยิง แข็งกระด้าง ขาดความอ่อนโยน ประตูหน้าบ้านปิดสนิท ขณะที่ประตูด้านข้างและหน้าต่างกลับเปิดอยู่ และที่สำคัญ ภาพนี้ไม่มีภาพของแม่เลย

“องค์ประกอบเหล่านี้บ่งชี้ว่าเด็กกำลังเผชิญกับแรงกดดันทางจิตใจค่อนข้างมาก เด็กมีแนวโน้มอยากหลีกหนีจากพื้นที่ครอบครัว หลีกเลี่ยงใครบางคน และค่อย ๆ สูญเสียความรู้สึกปลอดภัยและความไว้วางใจ” แพทย์อธิบาย

หลังจากฟังการวิเคราะห์ คุณแม่ก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เธอยอมรับว่าตั้งแต่ลูกเริ่มเข้าเรียนอนุบาล เธอแทบไม่ให้ลูกเล่นเหมือนเด็กคนอื่น ๆ
แต่กลับให้ลูกอ่านหนังสือ เรียนตัวอักษร เรียนตัวเลขตามตารางที่แน่นมาก ทำให้กิจวัตรประจำวันของลูกแตกต่างจากเพื่อนวัยเดียวกันอย่างสิ้นเชิง

หากไม่ใช่เพราะความละเอียดอ่อนของครูและการพาไปตรวจอย่างทันท่วงทีในครั้งนี้ บางทีคุณแม่อาจไม่ทันสังเกตเห็นบาดแผลทางจิตใจที่ลูกกำลังเผชิญอยู่อย่างเงียบ ๆ

จากเรื่องราวนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเน้นย้ำว่า เด็กเล็กมักยังไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตนเองออกมาเป็นคำพูดได้อย่างชัดเจน เมื่อเผชิญกับแรงกดดัน พวกเขามักเลือกวิธีทางอ้อม เช่น การวาดภาพ การเขียน หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพื่อ “ส่งเสียง” แทนคำพูด

ดังนั้น พ่อแม่ไม่ควรให้ความสำคัญเพียงคะแนนหรือผลการเรียน แต่ควรใส่ใจการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ทางอารมณ์และพฤติกรรมของลูกมากขึ้น หากเห็นว่าลูกเงียบลง พูดน้อยลง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมประจำวัน หรือเริ่มเก็บตัว พ่อแม่ควรใช้เวลารับฟัง พูดคุย และหาสาเหตุ แทนที่จะมองข้ามหรือคิดว่าเป็นเพียงเรื่องของ “เด็ก ๆ”

เพราะบางครั้ง ภาพวาดที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย ก็อาจเป็นเสียงขอความช่วยเหลืออย่างเงียบงันที่ลูกกำลังพยายามส่งถึงผู้ใหญ่

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่