สุขภาพ 18/12/2025 19:19

ผู้คนเป็นโร.คเ.บาหว.านมากขึ้นเรื่อย ๆ แพ.ทย์เตื.อน: อย่าโทษข้าวขาว เพราะ 4 พฤติกรรมเหล่านี้อั

งานวิจัยและการสังเกตทางคลินิกพบว่า ตัวการสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวนอย่างรุนแรง บางครั้งไม่ได้อยู่บนโต๊ะอาหาร แต่กลับมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มักถูกมองข้ามได้ง่าย

เมื่อพูดถึงภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หลายคนมักโทษข้าวขาว ของหวาน หรืออาหารทอด และรีบนำสิ่งเหล่านี้ขึ้นบัญชีต้องห้าม อย่างไรก็ตาม งานวิจัยและประสบการณ์ทางการแพทย์ชี้ให้เห็นว่า สาเหตุใหญ่ที่ทำให้น้ำตาลในเลือดแกว่งแรง บางครั้งไม่ได้มาจากอาหาร แต่เกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

จากประสบการณ์ทำงานในโรงพยาบาลมาหลายปี และการดูแลผู้ป่วยเบาหวานนับร้อยราย แพทย์พบว่ามีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้ แม้รูปแบบการกินจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยจุดร่วมของผู้ป่วยเหล่านี้คือ 4 พฤติกรรมต่อไปนี้

1. นอนดึก นอนน้อย ทำให้นาฬิกาชีวภาพแปรปรวน
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน พฤติกรรมนี้ถือเป็น “ฆาตกรเงียบ” การนอนดึกต่อเนื่องรบกวนนาฬิกาชีวภาพ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล โดยเฉพาะการหลั่งและประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน
งานวิจัยจำนวนมากพบว่า การนอนดึกทำให้ความไวต่ออินซูลินลดลง รบกวนการเผาผลาญน้ำตาล และทำให้น้ำตาลในเลือดผันผวน ควบคุมได้ยาก แม้จะไม่ได้กินมากขึ้น

2. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
อากาศหนาวทำให้หลายคนไม่อยากดื่มน้ำหรือไม่รู้สึกกระหาย แต่ร่างกายยังคงสูญเสียน้ำผ่านเหงื่อและปัสสาวะ เมื่อร่างกายขาดน้ำ ความเข้มข้นของกลูโคสในเลือดจะสูงขึ้น ทำให้อินซูลินทำงานได้ยาก
ในทางคลินิกพบว่าผู้ป่วยจำนวนหนึ่งกินอาหารค่อนข้างจืด แต่ระดับน้ำตาลยังสูง สาเหตุแท้จริงกลับมาจากภาวะขาดน้ำเล็กน้อยเรื้อรัง การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วย “เจือจาง” กลูโคสในเลือด และช่วยให้กระบวนการเผาผลาญเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

3. ขาดการเคลื่อนไหว นั่งนานจนเคยชิน
ในช่วงอากาศหนาว หลายคนไม่อยากออกไปข้างนอก ขี้เกียจขยับตัว กิจกรรมยอดนิยมคือการนอนอยู่ใต้ผ้าห่มหรือการนั่งอยู่ในห้องอุ่น ๆ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การนั่งนานและเคลื่อนไหวน้อยจะลดความไวต่ออินซูลิน เพิ่มภาวะดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดหลังอาหารสูงนานขึ้น
งานวิจัยชี้ว่าการขาดการออกกำลังกายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้โรคเบาหวานรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ตรงกันข้าม การเคลื่อนไหวเบา ๆ เช่น เดิน ไทเก๊ก หรือโยคะ ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินและทำให้น้ำตาลในเลือดคงที่ขึ้นอย่างชัดเจน

4. อารมณ์แปรปรวน ความเครียดสะสม
การเปลี่ยนแปลงของอากาศอาจทำให้อารมณ์ของหลายคนหงุดหงิด วิตกกังวล โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ความเครียดทางจิตใจทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มภาวะดื้อต่ออินซูลินและดันระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น
ในทางปฏิบัติพบว่า ผู้ป่วยที่วิตกกังวลบ่อย นอนไม่หลับจากแรงกดดันเรื่องครอบครัวหรือการทำงาน มักควบคุมน้ำตาลในเลือดได้แย่กว่า แม้จะปฏิบัติตามการรักษาก็ตาม

ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า การควบคุมโรคเบาหวานไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ “กินอะไร หรือเลี่ยงอะไร” เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงอากาศหนาว การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เช่น นอนดึกขึ้น ดื่มน้ำน้อยลง นั่งนานขึ้น หรือความเครียดสะสม ล้วนสามารถทำให้น้ำตาลในเลือดไม่คงที่ได้ โดยที่ผู้ป่วยอาจไม่ทันรู้ตัว

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่