สุขภาพ 22/12/2025 01:08

เท้าเตือนเบาหวาน วิเคราะห์ 10 อาการสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม

แพทย์ชี้ว่า “เท้า” เป็นหนึ่งในอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเร็วที่สุด เพราะมีทั้ง เส้นประสาทและหลอดเลือดขนาดเล็กจำนวนมาก เมื่อเกิดความผิดปกติ สัญญาณมักเริ่มจากเท้าก่อนส่วนอื่นของร่างกาย

🔎 วิเคราะห์ 10 อาการเตือนเบาหวานจากเท้า

1️⃣ อาการชา ปลายเท้าไร้ความรู้สึก
เกิดจากเส้นประสาทถูกน้ำตาลในเลือดสูงทำลายอย่างช้า ๆ หากปล่อยไว้นาน อาจไม่รู้ตัวเมื่อเกิดบาดแผล

2️⃣ ปวดแสบ ปวดร้อน หรือเหมือนไฟช็อต
เป็นลักษณะของปลายประสาทอักเสบ มักปวดมากขึ้นตอนกลางคืน ส่งผลต่อการนอน

3️⃣ เท้าเย็นผิดปกติ
สะท้อนการไหลเวียนเลือดไม่ดี หลอดเลือดตีบจากน้ำตาลสะสมในผนังหลอดเลือด

4️⃣ ผิวเท้าแห้ง แตก ลอกง่าย
ระบบประสาทที่ควบคุมต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น

5️⃣ แผลหายช้า
น้ำตาลสูงรบกวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และลดประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาว

6️⃣ ติดเชื้อที่เท้าบ่อย โดยเฉพาะเชื้อรา
เชื้อโรคเติบโตได้ดีในสภาพน้ำตาลสูง ภูมิคุ้มกันจึงอ่อนแอลง

7️⃣ สีผิวเท้าเปลี่ยน คล้ำ ซีด หรือแดงผิดปกติ
เป็นสัญญาณของหลอดเลือดผิดปกติ หรือการอักเสบเรื้อรัง

8️⃣ กล้ามเนื้อเท้าอ่อนแรง เดินไม่มั่นคง
เส้นประสาทสั่งการกล้ามเนื้อเสื่อม ทำให้การทรงตัวแย่ลง เสี่ยงหกล้ม

9️⃣ ปวดขา ปวดเท้าในเวลากลางคืน
เกิดจากการขาดเลือดและการระคายเคืองของเส้นประสาท มักชัดเจนตอนพัก

🔟 รูปร่างเท้าเปลี่ยน นิ้วงอหรือผิดรูป
ภาวะแทรกซ้อนระยะยาวจากเส้นประสาทและกล้ามเนื้อเสียสมดุล

⚠️ แพทย์เตือน

หากพบอาการเหล่านี้ ตั้งแต่ 2–3 ข้อขึ้นไป และเกิดซ้ำบ่อย ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดโดยเร็ว การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกสามารถ ชะลอโรค ลดภาวะแทรกซ้อน และป้องกันแผลเรื้อรังหรือการตัดอวัยวะได้

✅ ดูแลเท้าวันนี้ ป้องกันเบาหวานวันหน้า

  • ตรวจเท้าทุกวัน

  • ควบคุมอาหารและระดับน้ำตาล

  • หลีกเลี่ยงรองเท้าคับ

  • พบแพทย์ทันทีเมื่อมีแผลหรืออาการผิดปกติ

เพราะบางครั้ง เท้าอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคที่ดังที่สุด ก่อนที่คุณจะรู้ตัว

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่