เคล็ดลับ 18/10/2025 16:46

แช่ปลาในน้ำนี้ ปลาจะดับกลิ่นคาว เนื้อปลาจะหวานขึ้นและมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นถึง 3 เท่

ปลาเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดีต่อหัวใจ สมอง และระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม หลายคนมักไม่กล้าปรุงปลาเพราะกลิ่นคาวที่เป็นเอกลักษณ์ หากปรุงอย่างไม่ถูกต้อง รสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของปลาจะได้รับผลกระทบ ตำรับยาพื้นบ้านมีเคล็ดลับง่ายๆ แต่ได้ผลดี คือ เพียงแช่ปลาในน้ำสะอาดก่อนปรุง ปลาจะสะอาดปราศจากกลิ่นคาว เนื้อปลาจะแน่นขึ้น และหวานขึ้นหลายเท่า

แล้ว “น้ำ” ที่ว่านั้นคืออะไร ไปดูกันดีกว่าค่ะ

แช่ปลาในน้ำนี้ ปลาจะดับกลิ่นคาว เนื้อปลาจะหวานขึ้นและมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นถึง 3 เท่า
แช่ปลาในน้ำนี้ ปลาจะดับกลิ่นคาว เนื้อปลาจะหวานขึ้นและมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นถึง 3 เท่า

1. น้ำเกลือผสมน้ำส้มสายชู - เคล็ดลับขจัดกลิ่นคาวปลาได้ผลที่สุด

นี่คือวิธีการแช่ปลาแบบดั้งเดิมที่คนทำอาหารที่บ้านส่วนใหญ่ใช้:

การทำ:

  • ผสมน้ำกรอง 1 ลิตรกับเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำส้มสายชูขาว 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำมะนาว)

  • แช่ปลาที่ทำความสะอาดแล้ว (ควักไส้และขอดเกล็ด) ไว้ 10–15 นาที

  • จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดและสะเด็ดน้ำ

ผล:

  • เกลือช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในขณะที่น้ำส้มสายชูหรือมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยทำให้สารประกอบไตรเมทิลามีนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นคาวเป็นกลาง

  • ผลลัพธ์: กลิ่นปลาสะอาด หนังสวย เนื้อแน่น และยังคงความหวานตามธรรมชาติ

2. น้ำข้าว – สารอาหารธรรมชาติ ระงับกลิ่นกายอย่างอ่อนโยน

การแช่ปลาในน้ำข้าวเป็นเคล็ดลับพื้นบ้านที่มีประโยชน์มาก
การแช่ปลาในน้ำข้าวเป็นเคล็ดลับพื้นบ้านที่มีประโยชน์มาก

การทำ:

  • ใช้ข้าวสารน้ำที่ 2 (น้ำขุ่นกว่า) แช่ปลาไว้ 15 นาที

  • จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่า

ผล:

  • น้ำข้าวประกอบด้วยเอนไซม์อ่อนๆ ที่ช่วยทำให้เนื้อปลาอ่อนนุ่มลงและขจัดเมือกคาวบนผิวน้ำออกไป

  • พร้อมกันนี้ยังไม่สูญเสียสารอาหารภายในเนื้อปลาอีกด้วย

  • เหมาะสำหรับ : ปลาในน้ำจืด เช่น ปลากะพง ปลาตะเพียน ปลาดุก...

3. น้ำชาเขียว – แอนตี้แบคทีเรีย กลิ่นปลาธรรมชาติ

ชาเขียวไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนผสมที่ดีในการขจัดกลิ่นคาวอีกด้วย

การทำ:

  • ชาเขียวแช่ทิ้งไว้ให้เย็น

  • แช่ปลาที่ทำความสะอาดแล้วในชาประมาณ 10–20 นาที

  • จากนั้นถอดออกและสะเด็ดน้ำ

ผล:

  • ชาประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยดับกลิ่นและฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ให้กลิ่นอ่อนๆ ไม่คาวแก่ปลาอีกด้วย

  • เหมาะสำหรับนึ่งปลาและตุ๋นเพื่อคงรสชาติที่เบาบาง

4. ไวน์ขาว – เคล็ดลับจากเชฟมืออาชีพ

ไวน์ขาวเพียงเล็กน้อยสามารถเปลี่ยนปลาคาวให้กลายเป็นปลาหอมได้!

การทำ:

  • ผสมไวน์ขาว 50 มล. กับน้ำ 300 มล. สามารถเพิ่มขิงหั่นบาง ๆ ลงไปได้

  • แช่ปลาไว้ประมาณ 5–10 นาที

  • ล้างให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร

ผล:

  • แอลกอฮอล์ระเหยอย่างรวดเร็วพร้อมกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

  • ขิงช่วยเพิ่มกลิ่นหอม ทำให้เนื้อปลามีความแน่นและมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นโดยยังคงโปรตีนตามธรรมชาติไว้

  • หมายเหตุ: อย่าแช่ไว้นานเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปลาแห้ง

5. ทำไมปลาจึง “หวานกว่าและมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า 3 เท่า” หลังจากแช่?

การกำจัดกลิ่นคาวอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงรสชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสารอาหาร เช่น โอเมก้า 3 โปรตีน วิตามินดี เป็นต้น เมื่อเนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาว ร่างกายจะดูดซับโปรตีนได้ง่ายขึ้น อาหารมีรสชาติดีขึ้น และหลีกเลี่ยงความรู้สึกอิ่มและอาหารไม่ย่อย
การกำจัดกลิ่นคาวอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงรสชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสารอาหาร เช่น โอเมก้า 3 โปรตีน วิตามินดี เป็นต้น เมื่อเนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาว ร่างกายจะดูดซับโปรตีนได้ง่ายขึ้น อาหารมีรสชาติดีขึ้น และหลีกเลี่ยงความรู้สึกอิ่มและอาหารไม่ย่อย

นอกจากนี้ ปลาที่แช่ในน้ำส้มสายชู ชาเขียว หรือไวน์ขิง ยังช่วยฆ่าเชื้อ ลดความเสี่ยงในการเกิดอาหารเป็นพิษ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุและเด็กๆ

น้ำในชามเล็กๆ – ได้ผลดีเยี่ยม การแช่ปลาอย่างถูกวิธีก่อนนำไปปรุงคือเคล็ดลับในการรักษาความหวาน ลดกลิ่นคาว และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ อย่าปล่อยให้อาหารที่มีประโยชน์อย่างปลา “ต้องมาหลอน” เพียงเพราะกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เลือกวิธีแช่ที่เหมาะสมกับชนิดของปลาและอาหารที่คุณตั้งใจจะทำ แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่