ความจริง 05/11/2025 17:07

3 ประเภทอาหาร ‘ยับยั้ง’ ความสูง ยิ่งเด็กกินมาก ความสูงยิ่งลดลง

เครื่องดื่มอัดลม

ภาพประกอบภาพถ่าย

เครื่องดื่มอัดลมมีฟอสฟอรัสสูง หากเด็กได้รับฟอสฟอรัสมากเกินไป จะทำให้สัดส่วนแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกายไม่สมดุล ส่งผลให้แคลเซียมลดลงอย่างมาก ส่งผลต่อพัฒนาการกระดูกของเด็ก และทำให้เด็กเจริญเติบโตช้า ดังนั้น ผู้ปกครองไม่ควรให้บุตรหลานดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป

นอกจากน้ำอัดลมแล้ว อวัยวะภายในสัตว์ยังมีไขมันอยู่มาก หากบริโภคเป็นประจำ ไม่เพียงแต่จะทำให้เด็กอ้วนเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดการสะสมของอาหาร นำไปสู่อาการอาหารไม่ย่อย ม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ ซึ่งจะขัดขวางพัฒนาการด้านความสูงของเด็กอย่างมาก

ชานมหรือเค้ก

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 องค์การอนามัยโลกได้แนะนำประเด็นการจำกัดการบริโภคน้ำตาลอิสระไว้ใน “แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับน้ำตาลสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก” ทั้งในผู้ใหญ่และเด็กๆ ควรควบคุมการบริโภคน้ำตาลอิสระให้น้อยกว่า 10% ของปริมาณพลังงานที่บริโภคต่อวัน หรืออาจควบคุมให้น้อยกว่า 5% ก็ได้

หน่วยงานทดสอบที่เกี่ยวข้องได้ทำการทดสอบเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กๆ ในปัจจุบัน นั่นคือชานม ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าชานมหนึ่งถ้วยขนาดประมาณ 500 มิลลิลิตร มีน้ำตาลทรายขาวมากถึง 30-40 กรัม หรือมากถึง 70 กรัม ซึ่งสูงกว่าปริมาณน้ำตาลที่อนุญาตให้เด็กๆ บริโภคในแต่ละวันมาก

 

ดังนั้น ผู้ปกครองควรพยายามอย่าให้ลูกดื่มเครื่องดื่ม เช่น ชานม หรือของหวานเป็นเวลานาน มิฉะนั้นจะเปิดโอกาสให้อินซูลินในร่างกายหลั่งออกมาในปริมาณมาก ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ไม่ถูกสุขลักษณะและไม่เป็นผลดีต่อพัฒนาการของลูก

ผักและผลไม้ที่มีกรดออกซาลิก

สารนี้พบมากในผักโดยเฉพาะผักในวงศ์ Umbelliferae และ Amaranthaceae ซึ่งมีกรดออกซาลิกค่อนข้างสูง เช่น ผักโขม ผักโขมฝรั่ง และหน่อไม้

ในเด็กเล็ก สารนี้อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายทางเดินอาหาร ทำลายม้ามและกระเพาะอาหาร ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการ นอกจากนี้ เมื่อกรดออกซาลิกเหล่านี้เข้าสู่ลำไส้ จะเกิดเป็นแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งส่งผลต่อการดูดซึมแคลเซียม

หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกๆ ทานผักเหล่านี้ ควรลวกในน้ำเดือดเพื่อกำจัดกรดออกซาลิกออกให้มากที่สุด วิธีนี้จะช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อการเจริญเติบโตของเด็กในภายหลัง

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่