สุขภาพ 26/10/2025 00:06

รูปแบบการดื่มกาแฟที่มะเร็ง “โปรดปราน” ควรหลีกเลี่ยงให้เด็ดขาด อย่าให้พลาดแม้สักครั้ง

กาแฟเป็นเครื่องดื่มประจำวันของหลายคน ช่วยปลุกพลัง สมองตื่นตัว ทำงานได้อย่างกระปรี้กระเปร่า จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างแยกไม่ออก แม้กาแฟจะมีประโยชน์ เช่น ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ก็ยังมี “วิธีดื่ม” บางอย่างที่อาจทำให้กาแฟกลายเป็นตัวร้าย และกลายเป็นตัวส่งเสริมความเสี่ยงโรคร้ายอย่างโรคมะเร็งโดยไม่รู้ตัว

หลายคนอาจคิดว่าแค่กาแฟถ้วยเดียวในตอนเช้าคงไม่เป็นอะไร แต่หากดื่มผิดวิธีเป็นประจำ อาจกลายเป็นภัยเงียบที่สะสมในร่างกายโดยไม่ทันสังเกต ต่อไปนี้คือรูปแบบการดื่มกาแฟที่ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนที่รัก
Cà phê quá nóng có thể tăng nguy cơ ung thư, nên uống nhiệt độ nào cho an  toàn? - Tuổi Trẻ Online
การดื่มเครื่องดื่มร้อนเกิน 65 องศาอาจทำให้เยื่อบุหลอดอาหารถูกทำลายบ่อยครั้ง เมื่อเนื้อเยื่อถูกระคายเคืองเรื้อรัง จะเปิดโอกาสให้เซลล์ผิดปกติเติบโตมากขึ้น ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม บางคนชอบดื่มทันทีที่ชงเสร็จ ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป รอให้เย็นลงเล็กน้อยจะปลอดภัยกว่า

2. ดื่มกาแฟพร้อมน้ำตาลจำนวนมาก
กาแฟที่ใส่น้ำตาลเยอะ เช่น กาแฟเย็นหวานจัด ลาเต้คาราเมล เครื่องดื่มชงสำเร็จรูปต่างๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้สัมพันธ์กับความเสี่ยงมะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

3. ดื่มกาแฟกับครีมเทียมหรือไขมันทรานส์
ครีมเทียม ผงข้นนมหรือทอปปิ้งบางชนิดมีไขมันทรานส์ที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ส่งผลให้เซลล์เสื่อมเสียได้เร็วขึ้น และอาจเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งในระยะยาว การเลือกนมสดหรือนมพืชแทนจะดีกว่ามาก

4. ดื่มกาแฟตอนท้องว่างเป็นประจำ
เมื่อดื่มกาแฟทันทีที่ตื่นหรือตอนท้องว่าง กรดในกระเพาะอาหารจะเพิ่มขึ้นจนระคายเคือง กระเพาะเกิดการอักเสบเรื้อรังได้ หากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุกระเพาะ ซึ่งเป็นปัจจัยตั้งต้นของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
2-3 tách cà phê mỗi ngày, tác động khó tin lên dạng ung thư phổ biến

5. ดื่มกาแฟในปริมาณมากเกินไปทุกวัน
คาเฟอีนเกินขนาดทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ นอนไม่หลับ ฮอร์โมนร่างกายแปรปรวน เมื่อนอนน้อย ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ได้ไม่เต็มที่ ความเสี่ยงเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ผิดปกติจะสูงขึ้น

แล้วควรดื่มอย่างไรให้ปลอดภัย?

• ปล่อยให้เครื่องดื่มคลายร้อนก่อนดื่ม
• จำกัดน้ำตาลให้น้อยที่สุด หรือเลือกความหวานน้อย
• ใช้นมสดแทนครีมเทียม
• กินอาหารรองท้องเล็กน้อยก่อนดื่ม
• จำกัดปริมาณวันละ 1–2 แก้วก็เพียงพอ

การดื่มกาแฟไม่ใช่สิ่งผิด หากดื่มอย่างเหมาะสม กาแฟยังเป็นเพื่อนคู่ใจของคนทำงานได้ดี แต่เราควรปรับวิธีให้เข้ากับสุขภาพและการดูแลตัวเองในระยะยาว

อย่าปล่อยให้ความเคยชินเข้ามาทำร้ายร่างกายโดยไม่รู้ตัว แค่เปลี่ยนวิธีเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายได้มาก เมื่อเราดื่มอย่างมีสติ กาแฟก็ยังเป็นความสุขเล็กๆ ในทุกเช้าที่ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงไปพร้อมกันได้ครับ

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่