สุขภาพ 25/10/2025 22:13

ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เ.สี.ย.ชี.วิ.ต จากโรค ตั.บ แพทย์เปิดเผย 4 พฤติกรรม “ทำลายตั.บ” ในฤดูหน

ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เ.สี.ย.ชี.วิ.ต จากโรค ตั.บ แพทย์เปิดเผย 4 พฤติกรรม “ทำลายตั.บ” ในฤดูหนาวที่เกือบทุกคนเคยทำในชีวิต

อย่าคิดว่าเฉพาะระบบทางเดินหายใจเท่านั้นที่ถูก “โจมตี” ในฤดูหนาว — ตับ หัวใจ ไต และกระเพาะอาหารก็ต้องการการดูแลมากขึ้นเช่นกัน!

โรคตับกำลังกลายเป็นภาระสุขภาพระดับโลก จากข้อมูลของ GLOBOCAN ปี 2022 พบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยมะเร็งตับรายใหม่ประมาณ 866,136 ราย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของโรคมะเร็ง โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 758,725 รายต่อปี โดยเฉพาะประเทศเวียดนามอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งตับสูงที่สุด โดยมีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 24,000 รายต่อปี ซึ่งอัตราการเกิดและการเสียชีวิตสูง โดยเฉพาะในเพศชาย



Ngày càng nhiều người tử vong vì bệnh gan, bác sĩ vạch trần 4 thói quen "phá  gan" vào mùa lạnh

นอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตับ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยมี 4 พฤติกรรม “ทำลายตับ” ที่หลายคนมักทำในฤดูหนาวโดยไม่รู้ตัว:

1. กินยามั่วซั่วเพราะป่วยบ่อยในฤดูหนาว

ฤดูหนาวทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและเป็นหวัดได้ง่าย หลายคนจึงมักซื้อยามากินเอง ใช้ยาเกินขนาด หรือกินยาหลายชนิดพร้อมกัน แม้แต่การใช้วิตามินหรืออาหารเสริมเกินจำเป็นก็สามารถทำร้ายตับได้เช่นกัน

ตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ขับสารพิษและเผาผลาญยาเกือบทุกชนิด การใช้ยามากเกินไปทำให้ตับทำงานหนักและอ่อนแอลง เมื่อการทำงานของตับลดลง การขับยาและสารพิษก็ช้าลง เกิดการสะสมของสารพิษจนทำให้เกิดภาวะพิษจากยาและทำลายเซลล์ตับอย่างรุนแรง


Ngày càng nhiều người tử vong vì bệnh gan, bác sĩ vạch trần 4 thói quen "phá gan" vào mùa lạnh ai cũng từng làm trong đời- Ảnh 1.


2. นอนดึกบ่อยเพราะ “กลางวันสั้น กลางคืนยาว”

การนอนดึกเป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายตับตลอดทั้งปี แต่ในฤดูหนาวจะยิ่งอันตรายมากขึ้น เพราะภูมิคุ้มกันอ่อนแออยู่แล้ว ช่วงเวลาสำคัญที่สุดที่ตับและถุงน้ำดีฟื้นฟูและขับสารพิษคือระหว่างเวลา 23.00 น. ถึง 03.00 น.

หากนอนหลังเวลา 23.00 น. นาฬิกาชีวภาพจะถูกรบกวน การทำงานของตับลดลง เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันมากขึ้น และสร้างสารพิษภายในร่างกาย ทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันในตับ (Kupffer cells) ทำงานมากเกินไปจนเกิดการอักเสบ หากพฤติกรรมนี้ดำเนินต่อไป จะทำให้ตับอักเสบ ตับไขมัน และเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งตับ

3. ดื่มเหล้าหรือเบียร์เพื่อ “ให้ร่างกายอบอุ่น”

หลายคนเชื่อว่าการดื่มเหล้าหรือเบียร์ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น หรือดื่มเหล้ายาสมุนไพรเพื่อบำรุงร่างกาย แต่ในความเป็นจริง แอลกอฮอล์เพียงทำให้รู้สึกอุ่นชั่วคราว เพราะมันทำให้หลอดเลือดขยายตัว หลังจากนั้นร่างกายจะสูญเสียความร้อนมากกว่าเดิม

แอลกอฮอล์กว่า 90% ถูกดูดซึมและส่งไปยังตับเพื่อเผาผลาญ ทำให้ตับได้รับสารพิษโดยตรง หากดื่มเหล้าหรือเบียร์มากเกินไป โดยเฉพาะเหล้ายาดอง จะทำให้ตับทำงานหนักเกินไปจนเกิดภาวะตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ ตับแข็ง และในที่สุดอาจพัฒนาเป็นมะเร็งตับได้


Dùng thuốc kiểu này, 'phá gan' chẳng khác gì uống 1 lít rượu mỗi ngày


4. ดื่มน้ำน้อยและไม่ออกกำลังกายในฤดูหนาว

ในฤดูหนาว หลายคนดื่มน้ำน้อยและเคลื่อนไหวน้อย ซึ่งเป็นนิสัยที่ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น:

  • ขาดน้ำ: น้ำมีบทบาทสำคัญในการขับของเสียและสารพิษ ฤดูหนาวเลือดมักหนืดและไหลเวียนช้าลง หากดื่มน้ำน้อย ตับจะกำจัดสารพิษได้ยาก ทำให้การทำงานของตับผิดปกติ

  • ไม่ออกกำลังกาย: การไม่ออกกำลังกายทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง ควบคุมน้ำตาลและไขมันได้ไม่ดี เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับไขมันที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ (NAFLD) ซึ่งอาจนำไปสู่ตับแข็งในที่สุด

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่