สุขภาพ 25/10/2025 23:11

ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรงดอาหารเหล่านี้อย่างเด็ดขาด เพื่อควบคุมสุขภาพและลดอาการปวด

โรคเกาต์เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในเลือดมากเกินไป เมื่อกรดยูริกตกผลึกจะสะสมตามข้อต่างๆ ทำให้เกิดอาการปวด บวม และอักเสบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ผู้ป่วยมักจะรู้สึกเจ็บจนเดินไม่ได้และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก สิ่งสำคัญที่สุดหนึ่งอย่างที่ช่วยควบคุมโรคเกาต์ได้คือการดูแลอาหารที่รับประทาน เพราะอาหารหลายชนิดมีสารพิวรีนสูง ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้กรดยูริกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากไม่ระวัง อาการปวดอาจกำเริบอย่างรุนแรงได้ทันที

เพื่อให้โรคอยู่ในระดับควบคุมและลดความเสี่ยงของอาการกำเริบ ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรงดอาหารต่อไปนี้อย่างเด็ดขาด

1. เครื่องในและเนื้อแดง
เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไต หัวใจ และเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู มีพิวรีนสูงมาก การรับประทานบ่อยจะทำให้อาการเกาต์กำเริบง่าย ผู้ป่วยควรจำกัดหรือหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
Bệnh gút (gout) là gì? Triệu chứng, chẩn đoán và cách điều trị

2. อาหารทะเลบางชนิด
หอย ปลาตัวเล็ก ปลาซาร์ดีน ปลาทู รวมถึงกุ้งและปู ล้วนมีพิวรีนสูง การรับประทานอาจสร้างปัญหาต่อการควบคุมระดับกรดยูริก ผู้ป่วยควรเลือกปลาเนื้อขาวในปริมาณพอเหมาะแทน

3. แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์
แอลกอฮอล์ยับยั้งการขับกรดยูริกออกจากร่างกาย ทำให้ระดับกรดยูริกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เบียร์ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นอาการเกาต์ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงให้เด็ดขาดเพื่อป้องกันอาการกลับมา

4. อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
น้ำอัดลม น้ำหวาน ขนมหวาน และอาหารที่มีฟรุกโตสสูง จะทำให้ร่างกายผลิตกรดยูริกเพิ่มขึ้นและมีผลต่อระดับอินซูลิน ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงหรือทานให้น้อยที่สุด
Chế độ ăn và bệnh gút (gout) - Bệnh viện Đa khoa Vạn Hạnh

5. อาหารแปรรูป ไขมันสูง
อาหารทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด ไส้กรอก แฮม และของมันๆ ทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบง่ายขึ้น รวมถึงทำให้น้ำหนักเพิ่ม ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกาต์กำเริบได้

6. ถั่วบางประเภทและโปรตีนสัตว์มากเกินไป
แม้ถั่วและโปรตีนจะมีประโยชน์ แต่ถั่วบางชนิดมีพิวรีนสูง การกินโปรตีนจากสัตว์มากเกินไปก็เพิ่มกรดยูริกเช่นกัน ควรเลือกโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่ายและมีพิวรีนต่ำแทน

การดูแลโรคเกาต์ไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร ต้องควบคู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย เช่น
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกาย
• ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับเหมาะสม
• ออกกำลังกายอย่างพอดี ไม่หักโหม
• พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด
• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

แม้อาหารที่ต้องงดอาจดูเหมือนเยอะ แต่ความตั้งใจดูแลตัวเองจะช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้อย่างสบายและมีอาการปวดลดลงอย่างชัดเจน การเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับร่างกายคือการให้คุณค่ากับตัวเอง เมื่อคุณดูแลโรคได้ดี คุณก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและมีความสุขมากขึ้นทุกวันครับ

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่