ความรัก 15/12/2025 14:40

ชู้รักของสามีตั้งครรภ์ ภรรยาตัดสินใจทำสิ่งหนึ่ง เปิดโปงความลับที่ถูกซ่อนไว้

ชู้รักของสามีตั้งครรภ์ ภรรยาตัดสินใจทำสิ่งหนึ่ง เปิดโปงความลับที่ถูกซ่อนไว้

เมื่อชู้รักของสามีแจ้งว่าตั้งครรภ์ได้กว่าสามเดือน ภรรยาไม่ได้โวยวายหรือสร้างเรื่องอื้อฉาว แต่กลับตั้งสติและตัดสินใจทำเพียง “สิ่งเดียว” เพื่อหาความจริง


Hành vi công khai ngoại tình bị xử lý như thế nào?


เช้าวันต้นสัปดาห์วันหนึ่ง นางสาวสมพร วิไล ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์ดีเอ็นเอและเทคโนโลยีพันธุกรรมกรุงเทพฯ ได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่งด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล ขอรับคำปรึกษาเรื่องการตรวจดีเอ็นเอของทารกในครรภ์ หลังจากได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนและข้อกำหนดทางกฎหมายแล้ว หญิงคนนั้นก็ตกลงจะนำตัวอย่างมาตรวจในวันถัดไป

วันต่อมา คุณลลิตา* (อายุ 42 ปี อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ) ปรากฏตัวพร้อมสามีและหญิงสาววัยรุ่นอีกคนหนึ่ง เธอยื่นเรื่องขอตรวจดีเอ็นเอแบบเร่งด่วน และดำเนินเอกสารให้ครบถ้วน จากนั้นเธอและสามีนั่งรอผลตรวจเป็นเวลาสี่ชั่วโมง ขณะที่หญิงสาวคนดังกล่าวขอตัวกลับไปก่อน ระหว่างรอ คุณลลิตาเปิดใจเล่าตรงไปตรงมาว่า หญิงสาวที่มาด้วยกันคือชู้รักของสามี





คุณลลิตาเล่าว่า สามีของเธอเป็นเจ้าของธุรกิจเอกชน มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ต่างจังหวัด เขารับผิดชอบงานบริหารทั้งหมด ส่วนเธอดูแลงานนำเข้า–ส่งออกที่สำนักงานในกรุงเทพฯ วันหนึ่งเธอเดินทางไปโรงงานโดยไม่บอกล่วงหน้า และสังเกตเห็นพนักงานสาวคนหนึ่งสวมต่างหูคู่หนึ่งที่ดูหรูหรา สิ่งที่ทำให้เธอช็อกคือ ดีไซน์ของต่างหูคู่นั้นเหมือนกับของขวัญที่สามีมอบให้เธอในวันครบรอบแต่งงาน 15 ปีไม่มีผิด

“ตอนนั้นฉันยืนนิ่งไปเลย ดีไซน์นั้นสั่งทำพิเศษ ไม่มีทางมีคู่ที่สองได้” เธอย้อนความทรงจำ

ด้วยสัญชาตญาณของภรรยา เธอเริ่มสืบหาความจริง และได้รับข้อมูลจากพนักงานบางคนว่า ผู้บริหารกำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงสาวคนดังกล่าว

เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ คุณลลิตาไม่เอะอะโวยวาย แต่เลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อเผชิญหน้ากับสามี เมื่อมีหลักฐานชัดเจน เขาก็ยอมรับความผิดและก้มหน้าสารภาพ โดยอ้างว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว ทว่าสถานการณ์กลับรุนแรงขึ้น เมื่อหญิงสาวแจ้งว่าเธอตั้งครรภ์ได้กว่าสามเดือนแล้ว

ไม่อยากคาดเดาเอง คุณลลิตาจึงเดินทางไปยังบ้านเกิดของหญิงสาวเพื่อพูดคุยให้ชัดเจน
“ตอนเจอกัน เธอร้องไห้หนักมาก และยืนยันว่าเด็กในท้องเป็นลูกของสามีฉัน ฉันจึงบอกไปว่า ถ้าเป็นความจริง ก็ให้ผลตรวจดีเอ็นเอยืนยัน” คุณลลิตาเล่า หญิงสาวยอมรับข้อเสนอนั้น

สี่ชั่วโมงต่อมา ผลตรวจออกมาอย่างชัดเจน: ทารกในครรภ์ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับสามีของเธอ เมื่ออ่านผลสรุป คุณลลิตากลั้นน้ำตาไม่อยู่ ขณะที่สามีทรุดเข่าลงกับพื้นภายในศูนย์ตรวจ ขอขมาและแสดงความสำนึกผิดอย่างสุดหัวใจ

คุณลลิตาเผยว่า เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนเตือนใจสำหรับผู้ชายที่ “พลาดพลั้ง” แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นตัวอย่างของพลังแห่งความสงบ เหตุผล และความเด็ดเดี่ยวของผู้หญิงเมื่อเผชิญบททดสอบในชีวิตคู่
“ฉันไม่โวยวาย ไม่ใช้อารมณ์ สิ่งที่ฉันต้องการมีแค่ความจริงและวิทยาศาสตร์” เธอกล่าว

ด้านคุณสมพร วิไล ระบุว่า เรื่องนอกใจ การตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ หรือความคลางแคลงในชีวิตสมรส ล้วนเป็นประเด็นอ่อนไหวและยากจะแก้ไขหากอาศัยเพียงความรู้สึก กรณีนี้ การตรวจดีเอ็นเอกลายเป็นเครื่องมือที่เป็นกลาง ชี้ชัดถูก–ผิด และช่วยกอบกู้ครอบครัวที่เกือบแตกสลาย ภรรยาได้เปิดใจให้อภัยสามี เพื่อรักษาความสุขและอนาคตของลูก ๆ ไว้

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่