ความรัก 2025-12-02 22:38:53

ถึงเวลาที่แม่ผมต้องใช้เงินค่ารักษา ผมโทรถามภรรยาแล้วถึงกับช็อกกับคำที่เธอพูดออกมา พร้อ

ถึงเวลาที่แม่ผมต้องใช้เงินค่ารักษา ผมโทรถามภรรยาแล้วถึงกับช็อกกับคำที่เธอพูดออกมา พร้อมทั้งขอหย่า
ผมได้ยินคำพูดนั้นแล้วรู้สึกว่างเปล่าในใจทันที

ผมเคยคิดว่าเรื่องเงินในบ้าน แค่ผู้ชายทำงานหาเงิน ผู้หญิงดูแลค่าใช้จ่ายก็พอ หลังแต่งงานผมยินดีมอบรายได้ทั้งหมดให้ภรรยาเก็บไว้ เพราะคิดว่าเธอคงบริหารได้ดีกว่าผม แต่พอใช้ชีวิตไปนาน ๆ ก็พบว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ภรรยาผมใช้เงินเหมือนน้ำ รายได้ของผมเดือนละมากกว่า 45,000 บาท และมีงานพิเศษเพิ่ม รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 60,000 บาท แต่บ้านเราไม่เคยมีเงินเก็บสักที


Đến lúc mẹ cần tiền viện phí, tôi gọi điện hỏi vợ thì giật thót người với lời cô ấy bộc bạch rồi đòi ly hôn- Ảnh 1.


ทุกครั้งที่ผมพูดเรื่องเก็บเงิน ภรรยาจะบอกว่า
“หาได้ก็ต้องใช้ จะเก็บไว้ถึงแก่แล้วจะใช้ยังไง?”

แต่สิ่งที่ใช้คือการซื้อของฟุ่มเฟือย เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของตกแต่งบ้านที่ผมมองว่าสิ้นเปลือง ทั้งค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าคอร์สเรียนของลูก ทุกอย่างสูงขึ้นแบบผมควบคุมไม่ได้

ผมเคยลองเก็บไว้บ้างเล็กน้อยเผื่อฉุกเฉิน แต่ทุกครั้งที่ทำแบบนั้น ภรรยาก็ไปโพสต์ในโซเชียลว่า
“ผู้หญิงเก็บเงิน บ้านถึงจะสงบ ผู้ชายเก็บเงินเดี๋ยวก็มีผู้หญิงใหม่”
หรือ
“ผู้หญิงผิดพลาดที่สุดคือการแต่งงานกับผู้ชายที่เห็นเงินสำคัญกว่าครอบครัว”

ถึงจะไม่เอ่ยชื่อผม แต่คนรอบข้างก็เริ่มซุบซิบว่าผมทำผิดอะไรหรือเปล่า ผมอายและเหนื่อยใจ แต่ก็ยอมทนเพื่อครอบครัว

จนวันที่แม่ผมล้มป่วยรุนแรง ต้องใช้เงินมัดจำค่าผ่าตัดเกือบ 150,000 บาท ผมยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์โรงพยาบาลแล้วขาแทบทรุด ในกระเป๋ามีเงินสดแค่กว่า 10,000 บาท นอกนั้นภรรยาเป็นคนถือทั้งหมด ผมโทรหาเธอ เธอบอกว่า
“เงินไม่ได้มีเยอะอย่างที่ anh คิดนะ ใช้นั่นนี่ไปหมดแล้ว”


Mẹ chồng khóc lóc van xin tôi ly hôn chồng


ผมถามว่าใช้กับอะไร เธอตอบว่า
“หลายอย่าง เดี๋ยวว่างแล้วเล่าให้ฟัง”

ผมรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างแตกดังในหัว ครั้งแรกในชีวิตที่ผมโกรธจนมือสั่น ผมต้องวิ่งวุ่นโทรหาเพื่อน หาเครือญาติ ยืมทีละนิด ไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังและต่ำต้อยเท่าวันนั้น ทั้งที่จริง ๆ แค่เก็บทุกเดือนนิดเดียวก็พอแล้ว

หลังจากแม่ผมผ่าตัดเสร็จ ผมกลับบ้านแล้วบอกตรง ๆ ว่าต่อไปผมจะไม่ให้รายได้ทั้งหมดกับภรรยาอีก ต้องมีเงินสำรองของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำ ผมคิดว่าเธอน่าจะเข้าใจหรืออย่างน้อยก็เห็นใจ แต่ไม่เลย ภรรยาโกรธ บอกว่าผมมองเธอเป็นตัวทำลายครอบครัว ถ้าอยู่กันแบบไม่ไว้ใจกันก็หย่ากันไปเลยดีกว่า

คำพูดนั้นทำผมหยุดนิ่ง รู้สึกเหมือนถูกทิ้งทั้ง ๆ ที่ทนมานานเพียงเพื่อรักษาครอบครัว สุดท้ายแค่เพราะผมต้องการปกป้องแม่และมีเงินสำรองนิดหน่อย กลับกลายเป็นว่าผมเป็นคนผิดที่สมควรถูกทิ้ง?

คืนนั้นผมนั่งอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น มองสมุดที่จดรายชื่อคนที่ผมยืมเงิน ทุกชื่อคือหนี้ที่ผมต้องแบก ไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็นความอับอาย ผมควรทำอย่างไรต่อไปถึงจะรักษาทั้งครอบครัว และยังปกป้องเงินของตัวเองได้?

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่