ความรัก 2025-12-03 01:08:38

น้องเมียอายุน้อยกว่าผม 15 ปี ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ด้วยก็ทำให้ผมนอนหลับไม่สนิท

ผมนั่งเขียนเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกสับสนและอึดอัดในใจ
ปีนี้ผมอายุ 34 ปี ทำงานเป็นพนักงานบัญชีในบริษัทก่อสร้าง ชีวิตครอบครัวผมเคยสงบสุขดี ผมกับภรรยา – มินตรา – ทำงานทั้งคู่ ลูกชายเรียนอยู่ชั้นประถม 4 เย็น ๆ ก็กลับมากินข้าว ดูหนัง คุยกันอย่างอบอุ่น
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ พิม น้องสาวของมินตรา ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยที่บ้านเราเพื่อสะดวกต่อการเรียนมหาวิทยาลัยในเมือง


Em vợ kém tôi 15 tuổi, từ ngày chuyển đến ở cùng khiến tôi ăn ngủ không yên- Ảnh 1.


แรก ๆ ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะรู้ว่าทางบ้านมินตราอยู่ต่างจังหวัดลำบาก อีกอย่างผมก็คิดว่าพิมอายุน้อยกว่าเราตั้งหลายปี น้อยกว่าผมถึง 15 ปี เหมือนต่างกันคนละเจเนอเรชัน ผมก็เลยมองว่าเหมือนน้อง เหมือนลูกหลาน หากต้องช่วยเหลืออะไรก็ช่วย
แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์ ผมก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ

พิมเป็นคนขี้เกียจมาก
ทุกเช้าในขณะที่ทุกคนในบ้านกินข้าวเสร็จ ผมเตรียมตัวจะไปทำงาน แต่พิมยังนอนขดอยู่บนเตียง หรือถ้าลงมาข้างล่างก็ไปนอนต่อบนโซฟา เลื่อนโทรศัพท์เฉย ๆ
อาหารเช้าเย็นชืด ภรรยาผมก็ยังอุ่นให้เธอกินใหม่ หลายวันผมเพิ่งจัดโต๊ะเสร็จและจะออกจากบ้าน พิมก็ลงมาหารอะไรทาน ทำเลอะเทอะไว้เต็มโต๊ะ ถ้าผมไปทำงานเลย เย็นกลับมาก็ยังเป็น “สนามรบ” เหมือนเดิม แต่ถ้าผมนั่งรอให้พิมกินเสร็จแล้วค่อยเก็บ ผมก็ตอกบัตรสาย
ทั้งที่พิมอายุเกือบยี่สิบแล้ว แต่ไม่เคยช่วยเก็บกวาดเลย

ผมก็ไม่อยากว่าอะไร เพราะผมเป็นพี่เขย จะพูดตรง ๆ ก็เกรงใจ แต่ให้มินตราเตือนน้องสาว เธอก็เข้าข้างพิมตลอด บอกว่าผมคิดเล็กคิดน้อย


Những ngôi nhà bừa bộn thường có xu hướng tích trữ 5 món đồ này


ผมเริ่มหงุดหงิด และพาลโกรธภรรยาไปด้วยเพราะเธอเอาใจน้องจนเกินเหตุ
หลายครั้งพิมเอานมของลูกชายผมไปดื่ม เหลือครึ่งแก้วแล้ววางทิ้งไว้ข้างโซฟา ตรงมุมใกล้กระถางต้นไม้ จนมันเปรี้ยวส่งกลิ่นเหม็น ผมเดินหาต้นตออยู่นานกว่าจะเจอ
นั่นแสดงให้เห็นว่าพิมไม่ใช่แค่ขี้เกียจ แต่ยังสกปรก ไม่เป็นระเบียบ และไม่มีความรับผิดชอบแม้นิดเดียว ทั้งที่อาศัยบ้านพี่เขยอยู่

ผมเคยพูดกับภรรยาตรง ๆ ว่า
“พี่ว่า พิมควรหัดพึ่งตัวเองมากกว่านี้นะ อยู่แบบนี้ไม่ได้หรอก”
มินตราเงียบไปพักหนึ่งก่อนถอนหายใจ
“เขาอยู่แค่ไม่กี่เดือนเอง พี่ทนหน่อย เดี๋ยวพูดไปเขาจะคิดว่าเราดุหรือไล่เขา”
แต่ตอนนี้ผ่านไป สี่เดือนแล้ว ก็ยังไม่เห็นพิมมีท่าทีจะย้ายออก

เมื่อคืนนี้ ผมเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น เห็นพิมหยิบแว่นตาที่ผมเพิ่งซื้อมาใส่ ลองส่องกระจก หัวเราะคิกคักแล้วถ่ายเซลฟี่
ผมจึงพูดเบา ๆ แค่一句ว่า
“ก่อนใช้ของคนอื่น บอกกันก่อนนะ”
ไม่รู้เธออายหรือไม่พอใจ พิมวางแว่นลงแรง ๆ แล้วเดินขึ้นห้องไป
ทั้งคืนมินตราก็ไม่พูดกับผมเลยสักคำ

ตอนนี้ผมนั่งคิดหนัก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
ถ้าผมเงียบ ทุกอย่างก็จะเป็นแบบนี้ต่อไป
แต่ถ้าพูดตรงเกินไป ผมก็กลัวมินตราเสียใจ และพิมจะรู้สึกโดนตำหนิ

ผมควรทำอย่างไรดี เพื่อให้บ้านสงบ พิมจะได้มีความรับผิดชอบมากขึ้น หรือไม่อย่างนั้นก็ควรย้ายไปหอพัก เพื่อให้ทุกคนอยู่กันอย่างสบายใจ?

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่