ความรัก 08/12/2025 22:30

ฉันไว้อาลัยให้สามีมา 3 ปี พอคิดจะเริ่มต้นใหม่ บ้านหลังเดิมกลับกลายเป็นบททดสอบน้ำใจมนุษย์

ฉันไว้อาลัยให้สามีมา 3 ปี พอคิดจะเริ่มต้นใหม่ บ้านหลังเดิมกลับกลายเป็นบททดสอบน้ำใจมนุษย์

ฉันกลัวว่าถ้าพูดอะไรพลาดไป ความผูกพันหลายปีระหว่างฉันกับครอบครัวสามีเก่าอาจพังทลายลงหมด


Tôi đã để tang chồng suốt 3 năm, nào ngờ đến lúc muốn đi bước nữa thì căn nhà lại trở thành phép thử nhân tâm- Ảnh 1.


ฉันกับสามีอยู่กันมาได้ 5 ปี ก่อนที่เขาจะจากไปเพราะอุบัติเหตุรถชน ช่วงเวลานั้นฉันใช้ชีวิตเงียบๆ ราวกับเงาของตัวเอง ทำงานแล้วกลับบ้าน ทุกคืนก็จุดธูปให้เขา พูดคุยสองสามคำเหมือนปลอบใจตัวเอง พ่อแม่ของเขาเอ็นดูฉันมาก มักบอกว่า “ให้คิดว่าที่นี่คือบ้านของลูกนะ” ได้ยินแบบนั้นก็ทำให้ใจที่ว่างเปล่าของฉันเบาลงไปบ้าง

สามปีในการไว้ทุกข์ ฉันไม่เคยคิดเรื่องเริ่มต้นใหม่เลย เพราะใจยังไม่เปิด จนกระทั่งได้พบกับ นัท เขาไม่รีบร้อน ไม่พูดจาหวานจนเกินจริง เขาแค่คอยถามไถ่และอยู่เคียงข้างฉันผ่านวันยาวๆ ไปทีละวัน ฉันรู้สึกว่าตัวเองเริ่มต้นใหม่ได้ จึงตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่สามี หวังว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายจะยังเหมือนเดิม

แต่ตั้งแต่วันที่ฉันเอ่ยปาก ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป พวกเขาบอกว่า หากฉันจะแต่งงานใหม่ ต้องคืน “ครึ่งหนึ่งของบ้าน” ให้ครอบครัว เพราะ “นั่นคือส่วนของ วิน” ฉันได้ยินแล้วช็อก บ้านหลังนั้นเราสองคนช่วยกันสร้าง แต่ส่วนมากเป็นเงินที่ฉันเก็บมานานนับสิบปี ตอนทำเอกสารใส่ชื่อร่วมกัน ฉันคิดแค่ว่า เราเป็นคู่ชีวิต จะไปคิดเล็กคิดน้อยให้เสียใจทำไม ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งมันจะกลายเป็นเงื่อนไขกดดันให้ฉันต้องอยู่เป็นแม่หม้ายไปตลอด


Hình thức 'hôn nhân hai chiều' tại Trung Quốc gây tranh cãi trong dư luận |  baotintuc.vn


ตั้งแต่นั้นบรรยากาศก็อึมครึมไปหมด บางวันฉันไปจุดธูปให้วิน แม่สามีก็ยืนอยู่ตรงประตู ไม่พูดอะไร แต่นัยน์ตาของเธอบอกหมดว่ากำลังคิดแบบไหน ฉันก็เจ็บปวด แต่จะทำอย่างไรได้

ฉันอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ยิ่งฉันเงียบ พวกเขาก็ยิ่งยืนยันว่าต้องแบ่งแยกให้ชัด ถ้าฉันอยากแต่งงานใหม่อย่างไม่ติดค้าง ก็ต้องคืนครึ่งหนึ่งของมูลค่าบ้าน คิดแล้วใจฉันปั่นป่วน หากขายบ้าน ฉันก็ไม่มีที่มั่นคงสำหรับชีวิตใหม่ แต่ถ้าไม่ขายก็ถูกมองว่าโลภ ทั้งยังไม่มีเงินพอจะคืนให้พวกเขา

ฉันสงสารพ่อแม่ของวิน พวกเขาเพิ่งเสียลูกชาย ตอนนี้เห็นฉันจะเริ่มต้นใหม่ก็ยิ่งหวั่นไหว แต่ฉันเองก็มีชีวิตของฉัน จะให้ฉันติดอยู่ในความคลุมเครือแบบนี้ตลอดไปได้อย่างไร?

นัท บอกให้ฉันค่อยๆ คิด ไม่ต้องกังวลมาก แต่ยิ่งใกล้วันที่จะต้องตัดสินใจจริงๆ ใจฉันกลับยิ่งหนัก ฉันกลัวว่าถ้าพูดผิดไปนิดเดียว ความสัมพันธ์หลายปีจะจบลงแบบเจ็บปวด

ฉันเพียงต้องการให้ทั้งสองฝ่ายยังเก็บความอบอุ่นบางส่วนไว้ เพื่อวันที่ฉันก้าวออกไป จะได้ไม่รู้สึกผิดหรือค้างคาใจ ตอนนี้ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำอย่างไรถึงจะรักษาความสงบ และยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง…

ฉันควรทำอย่างไรดี?

บทความในหมวดเดียวกัน

บทความใหม่